You Are Looking For

น้ำจิ้มสะเต๊ะ เข้ากันได้ดีกับหมูและเนื้อสัตว์ย่างต่าง ๆ เพราะมีกลิ่นหอมจากเครื่องเทศสไตล์อินเดีย และยังมีความหวาน เค็ม เผ็ด มัน ครบรสจริง ๆ ดังนั้นจึงเหมาะจะลองฝึกทำและสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นน้ำจิ้มแสนอร่อยติดบ้านเอาไว้ ส่วนผสมน้ำจิ้มสะเต๊ะ เครื่องพริกแกงคั่ว                            4             ช้อนโต๊ะ มะพร้าวขูด                                       4             ขีด ถั่วลิสง                                             4             ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                                           4             ช้อนชา น้ำตาลทราย                                     2             ช้อนโต๊ะ น้ำสุก                                                 5             ช้อนโต๊ะ …

อาหารที่เรารับประทานในแต่ละมื้อนั้นต้องบอกว่าเป็นเมนูที่หาได้ยาก หากคุณจะมองหาเมนูที่มีแต่เครื่องเทศ ในที่นี้เราจะขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับเมนูที่ชื่อว่า เนื้อผัดเผ็ดใบยี่หร่า ซึ่งเป็นเมนูที่บอกได้เลยว่าคุณจะต้องชอบเพราะเหตุที่มีวัตถุดิบที่เป็นเครื่องเทศอย่างเยอะเลย เป็นเมนูที่เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบรับประทานเนื้อซึ่งสูตรที่เราจะกล่าวถึงในที่นี้ก็เป็นสูตรที่คุณสามารถที่จะทำได้เอง เพราะว่าเป็นสูตรที่สามารถตำเครื่องแกงเองได้ ซึ่งเครื่องแกงนั้นจะมีอะไรบ้าง เราจะได้กล่าวกันต่อไปนี้ เครื่องแกงของเมนู เนื้อผัดเผ็ดใบยี่หร่า นั้น จะต้องบอกว่าเป็นเครื่องแกที่มีแต่เครื่องเทศทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพริกแห้ง พริกไทย มะกรูด หอมแดง กระเทียมหรือแม้แต่ลูกผักชีหรือใบยี่หร่าก็ตามก็มีให้คุณได้ชิม ฉะนั้นพริกแกงเผ็ดของเมนูนี้ถือได้ว่าเป็นเมนูที่รวบรวมเครื่องเทศได้เป็นอย่างดี และเริ่มแรกที่คุณทำเมนูเนื้อผัดเผ็ดใบยี่หร่านั้น ก็ต้องเริ่มมาจากการที่คุณจะต้องตำเครื่องเทศอย่างพริกแห้งเสียก่อน ซึ่งพริกแห้งนั้นก็จะต้องเลือกพริกแห้งที่เป็นสีแดงที่มีการตากจนแห้งแล้วและมีการใส่เกลือผสม ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก เหตุที่จะต้องตำพริกแห้งก่อนก็เพราะว่าหากตำในภายหลังก็จะทำให้พริกนั้นไม่มีความละเอียดนั่นเอง เมื่อตำพริกแกงของเมนูเนื้อผัดเผ็ดใบยี่หร่าส่วนผสมอื่นๆไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเมื่อคุณตำเสร็จแล้ว คุณก็สามารถที่จะนำพริกแกงที่อบอวลไปด้วยเครื่องเทศนี้ไปทอดให้หอมแล้วใส่เนื้อลงไป จากนั้นผัดให้สุก เพียงเท่านี้ก็เตรียมข้าวสวยร้อนๆได้เลยขั้นตอนสุดท้าย เมื่อคุณผัดเนื้อเข้ากับเครื่องแกงเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถที่จะตกแต่งด้วยใบยี่หร่าได้หรือคุณจะนำใบยี่หร่ามาผัดผสมไว้ก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน และเราขอบอกได้เลยว่าเมนูเนื้อผัดเผ็ดใบยี่หร่านี้ อร่อยเด็ดเผ็ดร้อนไม่เหมือนเมนูอาหารไหนเลย เพราะเต็มไปด้วยเครื่องเทศนี่เอง ขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดีอย่าง ufa6666 ในการแนะนำการลงบทความ

หากคุณ คือ คนที่รับประทานอาหารรสจัดแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณเลือกรับประทาน อาหารภาคใต้ เลย เหตุเพราะอาหารภาคใต้นั้นเป็นอาหารที่มีความเด่นชัดในเรื่องของความจัดจ้าน โดยเฉพาะเครื่องแกงที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ เครื่องแกงจะมีความสดด้วยสีเครื่องแกงที่มีการใส่วัตถุดิบที่เรียกว่าพริกเป็นจำนวนมากหรือว่าจะเป็นการใช้วัตถุดิบในการทำแกงต่างๆก็ตามมีการจัดเต็มในทุกๆเมนูเลย เนื่องจากผู้คนทั่วไปก็จะทราบดีว่าภาคใต้นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของวิวทะเลที่มีความสวยงามและแน่นอนว่าอาหารที่เลิศที่สุดของภาคใต้ ก็คือ เมนูอาหารทะเลนั่นเอง ในอาหารทะเลนั้นเราจะเห็นว่ามีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา หรือแม้แต่ปลาหมึก ก็มีให้เราได้รับประทานกันอย่างสดๆเลย ยิ่งคุณไปซื้อที่ตลาดละแวกทะเลแล้ว คุณก็จะได้อาหารที่สดใหม่อย่างแน่นอน อาหารภาคใต้ มีความโดดเด่นที่มีความแตกต่างจากอาหารภาคอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเป็นเครื่องแกงที่เป็นวัตถุดิบหลักที่คนใต้มักจะนำมาใช้ปรุงอาหารบ่อยครั้งแล้ว ยังมีวัตถุดิบอีกอย่างหนึ่งที่คนใต้จะขาดไม่ได้เลยในการปรุงอาหาร นั่นก็คือ พริกขี้หนู เนื่องจากการที่จะทำให้เมนูอาหารในแต่ละมื้อนั้นมีรสชาติจัดจ้านได้นั้น ก็ต้องอย่าลืมใส่พริกขี้หนูไปด้วย และนอกจากความจัดจ้านของอาหารแล้วก็ยังเพิ่มสีสันของเมนูอาหารให้มีความน่ารับประทานอีกด้วย ฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่าเกือบทุกๆเมนูเลยที่คนใต้มักจะใส่เครื่องแกงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของคนใต้ลงในเมนูอาหารเกือบทุกๆเมนูพร้อมๆกับพริกขี้หนูลงไปด้วย อาหารภาคใต้ คือ อาหารที่แสดงออกถึงความมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนภาคไหน ความเป็นเอกลักษณ์ที่กล่าวถึงในที่นี้ ก็คือ เอกลักษณ์ที่มีความเฉพาะตัวในเรื่องของรสชาติอาหารนั่นเอง ซึ่งรสชาติของอาหารนั้นก็เป็นรสชาติที่มีความจัดจ้านที่ไม่เหมือนใคร โดยอาหารภาคใต้ก็จะมีรสชาติหลักๆเลย นั่นก็คือ รสเผ็ดนำในเกือบทุกๆเมนูเลยก็ว่าได้ ฉะนั้น ความจัดจ้านของเมนูอาหารภาคใต้ในปัจจุบันที่หลายๆคนชอบมากที่สุด ก็คือ ความเผ็ดที่มีกลิ่นอายความเป็นใต้อย่างแท้จริงที่สามารถมัดใจคนได้หลายๆคนเลย จะเห็นได้ว่า อาหารภาคใต้ เป็นอาหารภาคหนึ่งที่มีรสชาติแตกต่างจากภาคอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด โดยความแตกต่างในที่นี้ ก็คือ รสเผ็ดเกินบรรยายนั่นเอง ทำไมถึงกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าความเผ็ดในเมนูอาหารแต่ละเมนูของภาคใต้นั้นก็มาจากเครื่องแกงเป็นหลักนั่นเองที่มีความผสมผสานกันอย่างลงตัวพร้อมๆกับการใส่พริกขี้หนูเข้าไปก็ยิ่งเพิ่มความจัดจ้านเข้าไปอีก

เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านจะมีการปลูกผักสวนครัวและ ผักริมรั้ว ไว้ให้สามารถเก็บมาทำอาหารง่าย ๆ ที่ได้ประยชน์มาก ๆ แถมประหยัดอีกด้วย วันนี้แอดอยากจะมา แนะนำ 3 เมนูอาหารจาก ผักริมรั้ว ที่บอกเลยว่าน่าทานและน่าสนใจสุด ๆ ใครที่ชอบปลูกผักไว้ทานเอง ไม่ควรพลลาด ทำทานง่าย ๆ ได้ประโยชน์ อาหารจากผักริมรั้วที่บอกเลยว่าอร่อยและมีความน่าสนใจสุด ๆ สามารถทำทานเองได้แบบง่าย ๆ อาหารอย่างแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ดอกโสนผัดแหนม เป็นอีกเมนูง่าย ๆ ที่สามารถทำทานเองได้แบบง่าย สอ่งที่ต้องเตรียม แหนม ดอกโสน พริกขี้หนู เครื่องปรุงรสชาติ วิธีทำก็เหมือนกับเราทำผัดผักปกติแต่จะมีความเผ็ดนิด ๆ จากการใส่พริก และปรุงรสชาติตามความชอบ อาหารจากผักริมรั้วที่บอกเลยว่าอร่อยและมีความน่าสนใจสุด ๆ สามารถทำทานเองได้แบบง่าย ๆ อาหารอย่างที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ยำผักหวานใส่ซอสพริก เป็นอีกเมนูอาหารที่ทำงาน ๆ จากผักริมรั้วอย่างผักหวานนั้นเอง สิ่งที่ต้องเตรียม ผักหวานเด็ดใบ หมูสับ พริก น้ำมะนาว …

ถ้ากล่าวถึงอาหารเหนือหลาย ๆ ท่านอาจจะคิดถึงขันโตก ซึ่งมี หมูทอด ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคบหมู ข้าวเหนียว แต่เมื่อกล่าวถึง อาหารเหนือพื้นบ้าน ของชาวเหนือแล้วละก็ ทุกท่านจะคิดถึงอะไรกัน คงจะนึกไม่ออกเลยใช่ไหม แล้วถ้าถามว่าเคยได้ยินเพลงของคุณลานนา คัมมินส์ ที่ร้องว่า “เคยกิ๋นผักกาดจอ บ่เคยกิ๋นพิซซ่า หากว่าลุต๊องจะยะจะใด” (เคยทานแต่ผักกาดจอ ไม่เคยทานพิซซ่า หากว่าท้องเสียขึ้นมาจะทำอย่างไร) ก็อาจจะมึน ๆ ว่า แล้วผักกาดจอมันคือเมนูอาหารประเภทไหน ถ้าอย่างนั้นเรามาเรียนรู้ไปด้วยกันว่าผักกาดจอคืออะไร                ผักกาดจอ หรือจอผักกาด เป็น อาหารเหนือพื้นบ้าน ประเภทต้ม ผักกาดที่กล่าวถึงไม่ใช่ผักกาดขาวอย่างที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจ ชาวเหนือจะเรียกผักชนิดนี้ว่า “ผักกาดจ้อน” หรือเราอาจจะรู้จักกันในชื่อว่า “ผักกวางตุ้ง” ที่มีดอกสีเหลืองนั่นเอง กรรมวิธีคือ เตรียมตั้งน้ำซุป ต้มพร้อมเครื่องแกง ประกอบไปด้วย หอมหัวแดง กะปิ ถั่วเน่าที่ย่างไฟแล้ว (ถั่วเน่า คือถั่วเหลืองหมักที่นำไปตากแห้ง เวลาใช้นำไปย่าง หรือจี่กับไฟ มักจะนำไปตำพร้อมกับเครื่องแกง) …

เมนูอาหารที่ไม่มีขายนั้นแน่นอนว่าเราจะต้องทำกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น ครัวในบ้าน ทั้งนั้นที่จะบรรจงแต่งแต้ม รังสรรอาหารจานต่าง ๆ ให้น่ารับประทาน และอาหารบางอย่างก็จะมีเฉพาะบ้าน หรือเฉพาะครอบครัวเท่านั้น เพราะว่ามีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนวัตถุดิบบางประเภท เพราะฉะนั้นแล้ว ครัวในบ้าน จึงเป็นอาหารที่ไม่ว่าบ้านไหน ๆ หรือ ครอบครัวใด ๆ ก็ไม่สามารถลอกเลียนให้เหมือนได้ และก็ไม่มีขายในร้านค้าหรือร้านอาหารไหน ๆ อย่างแน่นอน ถ้าอยากจะทานก็ต้องทำทานเอง และถ้าอยากให้อร่อยก็ต้องปรุงเอง                สำหรับบทความนี้ครัวในบ้านจะนำเสนออาหาร 3 เมนูที่รับรองว่าไม่มีขายตามท้องตลาดอย่างแน่นอน ซึ่งเมนูแรกนี้ขอนำเสนอกับเมนู “แกงส้ม” แต่ไม่เหมือนกับแกงส้มที่เคย ๆ รับประทานกันแน่นอนเพราะ แกงส้มนี้ไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ที่เป็นปลา หรือกุ้ง แต่ใช้เป็นหมูสามชั้น และไม่ใช้ผักต่าง ๆ ที่เคยทานอย่างกะหล่ำปลี ผักกาดขาว หรือผักกะเฉด แต่เป็น กระเจี๊ยบเขียวซึ่งจะทำให้รสสัมผัสของแกงส้มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น สำหรับส่วนผสมของพริกแกงอาจจะเหมือน ๆ กับน้ำพริกแกงส้มทั่วไป คือ พริกจินดามณ๊แห้ง พริกขี้หนูแห้ง หอมหัวแดง กระชาย กะปิ โขลกให้เข้ากัน ตั้งน้ำต้มเนื้อหมูสามชั้นกับเกลือเล็กน้อย และหมั่นคอยช้อนไขมันที่ออกมาทิ้ง ระหว่างนี้ก็เตรียมหั่นกระเจี๊ยบเขียวแนวขวาง …

สำหรับวันนี้เราจะมานำเสนอเมนูอาหารที่เรียกว่าแกงป่า ป่าที่ไม่ได้หมายถึงยกผักมาทั้งสวน แต่ป่านี้มาจากชื่อเครื่องแกง โดยทั่วๆ แกงป่ามักจะเพิ่มรสเปรี้ยวจากน้ำมะนาว แต่สำหรับวันนี้เราจะเพิ่มรสเปรี้ยวของ แกงป่าใบมะดัน โดยใบมะดันนอกจากจะมีรสเปรี้ยวเฉพาะตัวแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยเรื่องเลือดลมอีกด้วย สำหรับเนื้อที่เราใช้ในวันนี้ก็เป็นเนื้อหมูสามชั้น ชิ้นส่วนโปรดปรานของใครหลายๆ คน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูวัตถุดิบ อุปกรณ์และกรรมวิธีการทำ แกงป่าใบมะดัน กันเลย วัตถุดิบ 1.ใบมะดันสด 1 กำมือ (เลือกใบมะดันที่อ่อนๆ จะมีรสเปรี้ยวมากกว่าใบมะดันแก่ๆ) 2.หมูสามชั้นปริมาณ 2 ขีด หรือ 200 กรัม 3.น้ำสะอาด 4.น้ำพริกแกงป่า 1/2 ช้อนโต๊ะ (เป็นเครื่องแกงป่าที่ซื้อสำเร็จมา เราไม่ได้ตำเครื่องแกงเอง) 5.น้ำปลา 1 ช้อนชา อุปกรณ์ 1.มีด 2.เขียง 3.หม้อแบบมีฝาปิด 4.จวัก กรรมวิธีการทำ แกงป่าใบมะดัน 1.เด็ดใบมะดันสดจากก้านออกให้ได้ปริมาณ 1 กำมือ จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วตั้งจนสะเด็ดน้ำ 2.นำหมูสามชั้นมาล้างให้สะอาด จากนั้นตั้งจนสะเด็ดน้ำ แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ 3.นำน้ำสะอาดใส่หม้อ จากนั้นใส่เครื่องแกงป่าลงไป 1/2 ช้อนโต๊ะ …

หากจะพูดถึงข้าวผัด ชื่อนี้ เราก็ต้องบอกว่าเป็นชื่อที่มีความอร่อยอย่างกลมกล่อมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรุงที่เป็นน้ำปลา ซีอิ๊วขาว พริกไทย มะนาว หรือแม้แต่ผงชูรสใส่เข้าไปในเมนูข้าวผัดนี้ก็ยิ่งทำให้ข้าวผัดดูน่าทานมากยิ่งขึ้น และเมนูข้าวผัดในปัจจุบันนี้เป็นเมนูที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก มีหลากหลายเมนู อย่างเช่น ข้าวผัดพริกแกง ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดต้มยำ หรือแม้แต่ ข้าวผัดต้มยำทะเล ก็มีเช่นกัน โดยเราจะพบว่าเมนูอาหารข้าวผัดต้มยำทะเล นั้นเหมือนเป็นการรวบรวมเมนูข้าวผัดแบบอื่นๆให้มีความลงตัวแบบเพอร์เฟ็คมากที่สุด ข้าวผัดต้มยำทะเลอย่างที่บอกว่าเป็นการผสมผสานของเมนูอาหารข้าวผัดอื่นๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าใครได้เห็นเมนูข้าวผัดนี้แล้วก็ต้องบอกเลยว่าน่าจะมีความเผ็ดซี้ดซ้าดอยู่ในข้าวผัดนั้น นอกจากนี้มีความหอมของเครื่องต้มยำที่ได้มีการผัดลงไปในข้าวอีกด้วยและถ้าคุณเพิ่มเติมการจัดจานด้วยเนื้อสัตว์ทะเลแล้วล่ะก็ยิ่งทำให้เมนูข้าวผัดนี้ดูน่าทานขึ้นไปอีก ข้าวผัดต้มยำทะเล เมนูอาหารที่นำมามิกซ์แล้วเข้ากัน แน่นอนว่าเมนูอาหารข้าวผัดต้มยำทะเลเป็นเมนูที่มีความอร่อยของเครื่องต้มยำอยู่ในข้าวผัด ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามีความอร่อยอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องต้มยำที่มีพืชผักสมุนไพรเท่านั้น ทั้ง ใบมะกรูด หอมแดง มะนาว ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดของเมนูอาหารข้าวผัดต้มยำทะเล คือ เนื้อกุ้งที่มีความกรุบกรอบเมื่อได้มีการผัดลงไปในข้าวเมนูนี้แล้ว และเมื่อคุณได้ทำการผัดกับเครื่องต้มยำก็ยิ่งทำให้ความอร่อยของเนื้อกุ้งมีความอร่อยมากยิ่งขึ้นนั่นเองจะเห็นได้ว่า เมนูอาหารข้าวผัดต้มยำทะเลนั้น เป็นเมนูที่มีการนำต้มยำทะเลมาใส่ไว้ในการผัดข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว โดยที่คุณไม่ต้องหาเมนูต้มยำทะเลมากทานเลย แต่คุณจะได้ทานข้าวที่มีต้มยำทะเลอยู่ในนั้นอย่างอร่อยไม่เหมือนเมนูข้าวผัดใดๆเลย ที่มารูปภาพและสูตรการทำอาหาร

ในเมนูอาหารที่เราเห็นกันอยู่นั้น ก็มักจะเห็นว่ามีการผสมผสานหรือมิกซ์แอนด์แมชต์อาหารต่างๆในรูปแบบใหม่ๆอยู่เสมอ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้อาหารนั้นมีความแปลกใหม่ อย่างบางคนเองก็ทำอาหารให้ดูน่าสนใจก็เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มารับประทานอาหารที่ร้านก็เป็นไปได้หรือบางคนหาวิธีทางเลือกในเมนูอาหารก็เพื่อต้องการรักษาสุขภาพก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึงอาหารที่ได้มีการปรับรูปแบบใหม่ให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น เมนูนั้น ก็คือ ข้าวผัดแกงเขียวหวานทะเล ข้าวผัดแกงเขียวหวานทะเล เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ต้องบอกเลยว่าทำง่ายมากๆ ไม่ยากเลย ถ้าหากคุณมีแกงเขียวหวานอยู่แล้วที่บ้านคุณก็สามารถที่จะนำแกงเขียวหวานนั้นมีคลุกเคล้ากับข้าวได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นหน้าตาของข้าวผัดก็อาจจะมีความเปียกของข้าวที่ไม่สวยงามไม่เหมือนการนำเครื่องแกงเขียวหวานมาผัดโดยตรง ข้าวผัดแกงเขียวหวานทะเล เมนูที่แสนอร่อยและทำไม่ยาก และในเมนูอาหารข้าวผัดแกงเขียวหวานทะเลนี้ วัตถุดิบหลักๆของเมนู คือ เนื้อสัตว์ทะเล อย่างเช่น กุ้งและหมึก โดยคุณจะต้องเลือกกุ้งและหมึกที่มีความสด จึงจะทำให้เมนูข้าวผัดนี้ดูน่าทานและนำไปผัดแล้วก็จะมีความอร่อยกรุบๆ นอกจากนี้จะไม่พูดไม่ได้เลย นั่นก็คือ พริกแกงเขียวหวาน เป็นพริกแกงที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะที่มีความฉุนหอมไม่เหมือนเครื่องแกงใดๆ เครื่องแกงจะมีสีเหลืองหม่นๆและมีกลิ่นหอมอย่างมาก อีกทั้ง ในเมนูอาหารนี้คุณสามารถที่จะใส่วัตถุดิบอื่นๆได้ อย่างเช่น มะเขือ เพื่อความสมจริงกับคำว่าข้าวผัดแกงเขียวหวานทะเลนั่นเอง จะเห็นได้ว่าข้าวผัดแกงเขียวหวานทะเลเป็นเมนูอาหารที่มีการยกทะเลและวิธีการทำมาไว้ที่เมนูนี้ไว้แล้ว และมิใช่เพียงแค่ยกทะเลมาไว้เท่านั้น แต่ยังได้ยกเครื่องแกงในแกงเขียวหวานมาไว้ที่นี่อีกด้วย

ในยุคนี้ก็ยังมีหลายบ้านที่ยังนิยมใช้ น้ำมันหมู ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะทำกันเอง ซึ่ง เคล็ดลับการเจียวน้ำมันหมู นั้นไม่ยากเลย ใครๆก็สามารถทำได้แต่จะทำแบบไหนให้ได้น้ำมันหมูที่ใสน่าใช้ และเก็บได้นาน ไม่มีกลิ่นหืนรวมทั้งได้กากหมูที่อร่อย มาต่อยอดทำเมนูอาหารต่างๆได้ วันนี้มีมาแนะนำ วิธีและ เคล็ดลับการเจียวน้ำมันหมู นั้นก็ไม่มีอะไรยากเริ่มต้นด้วย การเลือกซื้อมันหมูชนิดแข็ง นำมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดี ไม่ต้องเล็กมากหรือใหญ่มากจนเกินไป ความหนาประมาณครึ่งเซนติเมตรหรือ หั่นตามชอบได้ แต่อย่าลืมว่าเวลาเจียวแล้วมันก็จะหดลงไปอีก ถ้าจะมาทำเมนูอื่นก็ควรจะเลือกหันให้พอดี แต่หากใหญ่ไปก็จะเจียวได้ไม่กรอบ  เวลาเจียวน้ำมันหมูให้นำมันหมูใส่หม้อหรือกระทะแล้วเติมน้ำเปล่าให้ท่วม หลังจากนั้นก็นำไปตั้งไฟเจียวไปเรื่อยๆน้ำจะแห้งลงไปเอง และน้ำมันก็จะค่อยๆออกมา ที่สำคัญคือต้องคอยคนเพื่อไม่ให้มันหมูติดก้นภาชนะจะได้ไม่ไหม้ และไม่ใช้ไฟแรงอาจจะใช้เวลานานสักนิดในการเจียว แต่จะได้น้ำมันที่ใส และมีกลิ่นหอม หาก ม่ต้องการให้มีกลิ่นหืนหลังจากเก็บไว้หลายวัน แนะนำให้ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปตอนเจียวด้วยจะเพิ่มความหอมให้น้ำมัน วันนี้แอดมี เคล็ดลับการเจียวน้ำมันหมู ให้ใสมานำเสนอ ส่วนการเก็บนั้นหลังจากที่เราได้น้ำมันแล้ว ให้ใส่ขวดแก้ว หรือใส่ภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อความสะอาดสามารถนำใส่ตู้เย็นได้แม้ว่าเมื่อโดนความเย็นนำมันจะเป็นไข เวลาจะใช้ก็ใช้ช้อนตักในปริมาณที่เราต้องการใส่ลงในกระทะน้ำมันก็จะค่อยๆละลาย และการใส่ตู้เย็นนั้นก็จะทำให้เก็บได้นานด้วย ในส่วนของ กากหมู นั้น หลังจากที่เราแยกน้ำมันที่จะได้ออกไปหมด แล้วให้เจียวกากหมูด้วยไฟอ่อนๆอีกครั้งให้เหลืองพอดี สามารถโรยเกลือ หรือ ปรุงแต่งรสได้ตามชอบ สามารถรับประทานกากหมูเปล่ากับข้าวสวยร้อนๆโรยน้ำปลาพริกก็อร่อย หรือหากจะต้องการนำไปเป็นเมนูอื่น ก็ไม่ต้องปรุงรส เพราะปัจจุบันนิยมนำมาทำเป็นน้ำพริกกากหมู หรือ ผัดกับพริกแกง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่น่าสนใจ