October 2020

เทศกาล กินเจ ที่สายบุญทุกคนรอคอยนั้นมาถึงแล้ว สำหรับปี 2563 นี้ เทศกาล กินเจ จะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 ถึงวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 เป็นเวลา 9 วัน หลายคนอาจมีโอกาสได้ไปร่วมพิธีกินเจได้หลายแห่ง ที่นิยมทำกันมากที่สุดคือ การกินเจเป็นการทานอาหารแบบงดเนื้อสัตว์ โดยมักจะต้องล้างท้องก่อนจะถึงช่วงวันที่จะต้องเริ่มทานเจ เพื่อเป็นการชำระล้างเนื้อสัตว์และเมนูอาหารคาวต่างๆ ที่มีอยู่ในร่างกายออกไปให้หมด เพื่อร่างกายจะได้สะอาด พร้อมที่จะถือศีลกินเจ การกินเจในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีอาหารเจสำเร็จรูปขายอยู่มากมาย หรือแม้แต่อยู่ในรูปแบบปรุงสำเร็จมาแล้ว แต่จะทานอย่างไรให้อิ่มท้อง อิ่มใจ มีวิธีง่ายๆ ดังนี้                1. ทานเจให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน สามารถเลือกทานโปรตีนทดแทนจากเนื้อสัตว์ได้ เช่น พืชจากตระกูลถั่ว โปรตีนเกษตร น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง การทานอาหารเจนั้น ไม่จำเป็นต้องอด จนส่งผลกระทบถึงสุขภาพ แต่ควรทานให้ครบเพื่อสุขภาพที่ดี                2. เลือกทานแป้งแบบไม่ขัดสี เพื่อให้ได้สารอาหารสูงสุด เพราะนอกจากจะมีไฟเบอร์สูง …

ข้าวมันไก่ปักษ์ใต้ ตลาดนัดซอบล้างรถ ใครที่อยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือทำงานบริเวณนั้น ย่อมรู้จัก ตลาดนัดซอยล้างรถ หรือตลาดนัดโยธี หรือตลาดนัดซอยเสนารักษ์ มีเมนูอาหารหลากหลายชนิด เริ่มขายกันตั้งแต่ตอนเช้า ประมาณ 05.00 น. 06.00 น. หรือตี 5, 6 โมงเช้า ก็จะเริ่มตั้งแผง ตั้งตลาดกันแล้ว จะขายกันทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ ยกเว้นวันจันทร์ ซึ่งทางเทศกิจไม่ให้ตั้งขายของบนทางเท้า                อาหารที่ตั้งขายที่ตลาดก็มีมากมายหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น โจ๊ก ต้มเลือดหมู ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซาลาเปาปาท่องโก๋ ขนมจีนสารพัดน้ำ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ฯลฯ และหนึ่งในร้านนั้น เป็นคือ ข้าวมันไก่ปักษ์ใต้ ซึ่งร้านข้าวมันไก่ปักษ์ใต้ นั้นตั้งอยูบนถนนโยธี ซอยเสนารักษ์ เจ้าของร้านชื่อเจ๊นุช และมีลูกมือเป็นคุณแม่ กับคุณยายของเจ๊นุชร้านข้าวมันไก่ปักษ์ใต้จะเปิดร้านขายเวลา 06.00 น. หรือ 6 โมงเช้า และประมาณ 13.00 น. หรือบ่ายโมง …

ขนมปังปิ้ง เมนูอาหารทานเล่นง่าย ๆ ที่มักพบตามตลาดนัด หรืองานกาชาดต่าง ๆ ที่หาซื้อหาทานได้ไม่ยาก  ซึ่งความหอมหวนของมันนั้น  ชวนเรียกน้ำย่อยไม่น้อยเลยทีเดียว  ความพิเศษที่สามารถครองใจหลายคนได้  คงจะเป็นที่ไส้ที่อยู่ได้ทั้งบนหน้าและสอดไส้ได้   โดยมีให้เลือกทั้งคาวและหวาน  ตามความชอบของแต่ละคน  และในวันนี้  เรามี 3 เจ้าเด็ด แห่ง ขนมปังปิ้ง ที่มีชื่อเสียงด้านความหอมกรุ่น สดใหม่                                                                                                                             1. ภูธร บาร์ขนมปังปิ้งโบราณลุงเฉื่อย  ย่านแพร่งภูธร แขวงศาลพระเจ้าเสือ ที่เป็นแหล่งอาคารสวยงามและเก่าแก่ นอกจากจะไปถ่ายรูปอัปไอจีในช่วงกลางวันกันแล้ว  ตกเย็นก็อย่าลืมสรรหาของทานเล่น  ที่ร้านแห่งนี้ได้  นอกจากจะมีอาหารว่างทั้งคาวและหวานแล้วขนมปังปิ้งสูตรเด็ด กรอบนอก แต่ฉ่ำใน ที่มาด้วยไส้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนยน้ำตาล  เนยสังขยา  เนยไมโล หรือเนยไข่เค็มลาว ล้วนมีรสชาติที่กลมกล่อม และโดดเด่นด้วยกลิ่นเตาถ่าน  ที่หอมกรุ่นชวนหิวมาก ๆเช่นกัน                                      2.  บางหวาน (Bangwan) สาขาพระราม9 …

ถ้าให้นึกถึงอาหารใต้ที่คุ้นเคยในระยะเวลาอันสั้น เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะตอบโดยพร้อมเพรียงกันว่า คั่วกลิ้งหมู เพราะเป็นเมนูที่มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเมนูอาหารใต้อย่างแน่นอน ไม่เหมือนกับแกงประเภทอื่นที่มันชวนให้ลังเลอยู่บ้าง ด้วยว่ามีเมนูใต้บางอย่างที่คล้ายกับอาหารของภาคตะวันออกนั่นเอง แล้วเราก็พบเจอคั่วกลิ้งได้บ่อยไปในร้านอาหารปักษ์ใต้ แบบว่าเข้าร้านไหนก็ต้องมี ราวกับว่าเป็นเมนูพื้นฐานที่แสดงตัวว่าที่นี่ขายอาหารใต้จริงๆ                หากเปรียบเทียบ คั่วกลิ้งหมู ก็จะเหมือนกับลาบคั่วของภาคอีสาน ที่เอาเนื้อสัตว์มาคั่วกับเครื่องแกงหลากหลายชนิด เน้นให้มีความหอมและมีรสจัดจ้าน ทานคู่กับผักสดนับว่าเข้ากันดี นั่นหมายความว่าคั่วกลิ้งไม่ได้มีแค่หมูเท่านั้น จะใช้ไก่ก็ได้ ใช้อาหารทะเลก็ได้ด้วย เพียงแค่ไม่ค่อยนิยมกันเท่าไร ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครลองทำ แต่เนื้อหมูให้รสสัมผัสที่ดีที่สุดเท่านั้น                ส่วนประกอบสำหรับการทำเมนูคั่วกลิ้งหมูก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่มีกะปิ พริกสด พริกไทย ใบมะกรูด และเครื่องปรุงต่างๆ อย่างพวกน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เป็นต้น จุดสำคัญจึงอยู่ที่การเลือกพระเอกของจาน เนื้อหมูที่ใช้ต้องไม่ติดมัน และควรสับให้ละเอียดอย่าให้ติดกันเป็นแพยาว จะใช้สะโพกผสมกับสันในก็ได้ หรือกจะใช้สันในผสมสันนอกก็ดี วิธีทำก็แค่เอาเครื่องแกงลงไปผัดพอสุก จากนั้นก็เทหมูตามลงไป รวนให้เข้ากันดี โดยสังเกตจากสีของเนื้อหมูว่าเหลืองนวลทั่วดีหรือยัง                สิ่งที่ทำให้คั่วกลิ้งหมูแต่ละที่แตกต่างกัน ก็คือความใส่ใจระหว่างการปรุงนี่เอง เนื่องจากส่วนประกอบที่ต้องใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยากและการเลือกสรรวัตถุดิบแต่ละที่ ถึงจะต่างกันก็ไม่ได้มีผลมากมายขนาดนั้น มันจึงอยู่ที่การใช้ไฟ วิธีการคั่วหมูให้สุกพอดี ไม่มากเกินไปจนทำให้เนื้อเหนียวหรือแข็ง

รู้จักไหม “เมืองสองแคว” คงจะตอบได้เลยทันทีว่าเมืองพิษณุโลกเมืองที่มีคนกล้าแกร่งอย่าง “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และมีพระคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงอย่าง “พระพุทธชินราช” หรือหลาย ๆ คนที่พิษณุโลก เรียกว่า “หลวงพ่อโต” และเมืองพิษณุโลกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก หลาย ๆ แห่งที่น่าแวะเวียนไปเยี่ยมชม มีกิจกรรมทางน้ำ อย่างล่องแก่งแม่น้ำเข็กที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีแม่น้ำน่านไหลผ่าน จะสุกใจแค่ไหนถ้ามีอะไรกินไปเพลิน ๆ และดูแม่น้ำน่านไปด้วยพร้อม ๆ กัน เรียกได้ว่า หาของกินริมแม่น้ำน่าน แค่นี้ก็สุขใจมาก และเมืองสองแคว ยังมีเมนูอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองอย่างเช่นก๋วยเตี๋ยว และก๋วยเตี๋ยวที่มีไอเดียเก๋ ๆ ชิค ๆ อย่าง ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา                ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา เป็นก๋วยเตี๋ยวที่เป็นสูตรเด็ดของเมืองพิษณุโลก เพราะมีรสชาติที่ไม่เหมือนที่อื่น ก๋วยเตี๋ยวที่อื่นอาจจะให้ผักบุ้ง ถั่วงอก แต่ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ใช้ถั่วฝักยาวเป็นผักในถ้วยก๋วยเตี๋ยวและมีไข่ต้มยางมะตูมเป็นเครื่องเคียง และร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา มีทั้งหมู และเนื้อไว้ให้บริการกับลูกค้า ทั้งลูกค้าในเมืองสองแคว และนักท่องเที่ยวในเมืองอื่น ๆ ซึ่งการตกแต่งร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาก็เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และก๋วยเตี๋ยวหมู และเนื้อที่เตรียมไว้ให้ลูกค้านั้นมีทั้งแบบแห้ง และแบบน้ำ มีทั้งแบบจืด และแบบต้มยำ                …

สำหรับวันนี้เราขอนำเสนอเมนู มะเขือเทศผัดไข่ ผิวสวยสุขภาพดี ซึ่งจากที่เกริ่นมาก็มาจากวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำเมนูนี้ นั่นก็คือมะเขือเทศที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิด รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวพรรณของเรากระจ่างใสขึ้น สำหรับเมนูอาหารในวันนี้ก็เป็นการนำมะเขือเทศมาประกอบอาหารกันแบบง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยระดับภัตตาคารกันเลยทีเดียว สำหรับเมนูนั้นก็คือเมนู มะเขือเทศผัดไข่ วัตถุดิบสำหรับเมนูมะเขือเทศผัดไข่ 1.มะเขือเทศ ปริมาณ 8 ลูก 2.ไข่ไก่ ปริมาณ 4 ฟอง 3.ต้นหอม ปริมาณ 2 – 5 ต้น 4.น้ำมันพืช ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 5.เกลือ ปริมาณ 1/4 ช้อนชา 6.กระเทียม ปริมาณ 3 – 5 กลีบ 7.น้ำตาลทราย ปริมาณ 1 ช้อนชา 8.น้ำสะอาด ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ อุปกรณ์สำหรับเมนูมะเขือเทศผัดไข่ 1.มีด 2.เขียง 3.ถ้วย 4.กระทะ 5.ตะหลิว 6.จานสำหรับพักวัตถุดิบ 7.ส้อม …

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาตะลุยเมนูอาหารใต้อย่าง ผัดสะตอพริกแกง ขึ้นชื่อว่าอาหารใต้ไม่ต้องพูดถึงรสชาติก็น่าจะรู้ ๆ กันว่าเครื่องแกงรสเด็ดเขามาเต็มแน่แม่จ๋า ยิ่งทำมาจากสะตอที่เรียกได้ว่า เป็นพืชผักขึ้นชื่อของภาคใต้ด้วยลักษณะสุดพิเศษมีเมล็ดกลม, สีเขียว แต่กลิ่นฉุน แม้กลิ่นจะไม่ค่อยโอเท่าไหร่แต่มาทำอาหารนี่เรื่องความอร่อยต้องให้เขาแหละ อย่ารอช้า มาดูสูตรการทำกันเลย สูตรการทำ ผัดสะตอพริกแกง เมนูผัดสะตอพริกแกง ถ้าอยากได้รสชาติความเป็นใต้บบแท้ ๆ แนะนำให้ใช้พริกแกงใต้ ก็จะเป็นเครื่องแกงนี่แหละแต่เขาเพิ่มเครื่องเทศเข้าไปด้วยสมุนไพรต่าง ๆ และมีรสชาติที่เผ็ดมาก ซื่งส่วนประกอบต่าง ๆ มีดังนี้ สะตอ 3 ช้อนโต้ะ กุ้งสด 10 ตัว พริกแกงใต้ 1 ช้อนโต้ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ น้ำมันพืชสำหรับผัด วิธีทำผัดสะตอพริกแกงสามารถทำได้ตามนี้เลย ตั้งกระทะในเตา เปิดไฟรอจนน้ำมันให้ร้อน นำกุ้งลงในกระทะผัดให้สุก ใส่พริกแกงใต้ตามลงไปผัดกับกุ้งให้สุก ปรุงรสชาติให้กลมกล่อมด้วยน้ำตาลและน้ำปลา มาถึงพระเอกของเราแล้วใส่สะตอลงไปผัดกับส่วนผสมอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ เติมน้ำลงไป แต่ใส่แค่นิดเดียวพอจ้า ผัดต่อให้สะตอสุก เสิร์ฟใส่จานพร้อมรับประทานกับข้าวสวย อร่อยเหาะโดนใจแน่นอน เคล็ดไม่ลับฉบับอร่อยผัดสะตอพริกแกงอยากให้เมนูผัดสะตอพริกแกง …

เชื่อว่าจนถึงวันนี้หลายคนก็ยังสับสนอยู่ ระหว่าง “สละ” และ “ระกำ” โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยนิยมทานกันมากเท่าไร ความจริงมีวิธีสังเกตุอยู่ และต้องดูให้รู้ด้วย เพราะเราจะได้เลือกวัตถุดิบมาทำเมนูอาหารอย่าง น้ำพริกระกำ ได้อย่างถูกต้อง อย่างแรกที่ต้องดูเลยก็คือลักษณะของผล สละจะมีผลที่รียาวกว่า ระกำค่อนข้างกลมป้อม ส่วนของเปลือกก็ดูไม่ยาก สละจะเป็นเกล็ดซ้อนทับกัน ขณะที่ระกำจะเป็นเหมือนหนามแหลมและแข็ง                ทีนี้เมื่อเลือกระกำได้แล้ว ก็ถึงคราวลงครัวโขลก น้ำพริกระกำ กันได้ ส่วนผสมที่นอกเหนือไปจากระกำก็มีไม่มากนัก และสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน ได้แก่ พริกสด ถ้าเป็นพริกขี้หนูจะดีมาก กุ้งแห้ง กระเทียม หลักๆ มีเพียงเท่านี้เอง แล้วก็มีเครื่องปรุงรสอีกแค่ 3 อย่าง คือน้ำตาล น้ำปลา และกะปิ หมายความว่าขอให้ได้ระกำมา แค่นี้ก็ทำทานกันได้แล้ว                ขั้นตอนการทำน้ำพริกระกำก็ง่ายดายไม่แพ้การสรรหาวัตถุดิบ เริ่มจากโขลกกุ้งแห้งให้แตกฝอยก่อน เทคนิคที่ใช้ได้ดีก็คือ การเอากุ้งแห้งไปแช่น้ำไว้สักพัก ส่วนหนึ่งก็เพื่อล้างฝุ่นผง อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้เนื้อนุ่มลง เวลาโขลกจะขึ้นฟูได้เร็ว จากนั้นให้นำพริก กระเทียมใส่ตามลงไป โขลกจนทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปิดท้ายด้วยพระเอกของเรา เนื้อระกำฝาน คราวนี้ต้องโขลกเบามือหน่อย เพราะจะมีน้ำระกำออกมา โขลกแรงไปก็จะกระเด็นออกมาให้แสบร้อนกันเปล่าๆ …