You Are Looking For

สวัสดีครับทุกคน ช่วงโจโฉเข้าครัว วันนี้ขอเสนอเมนูที่มีชื่อว่า ผัดเผ็ดไก่ แน่นอนครับทุกคน ตามชื่อเมนู ผัดเผ็ดไก่ วัตถุดิบหลักของเราในวันนี้ก็จะเป็น ไก่รวมกับเครื่องใน 1.2 กิโลกรัม ถ้าพร้อมแล้ว เรามาดูวิธีการทำกันเลยครับทุกคนที่บทความ เมนูอาหาร ขั้นตอนแรก เราจะมาทำในส่วนของไก่กันก่อน คลุกกับเกลือให้ทั่ว ล้างน้ำให้สะอาด แล้วสับเป็นชิ้นพอดีคำ ทั้งในส่วนของไก่ และเครื่องใน เสร็จแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นเตรียมครกครับทุกคน ใส่เกลือติดปลายช้อน พริกแห้ง 30 เม็ด กระเทียมไทย 20 กลีบ ข่าหั่น 3 แว่น ขมิ้น 1 ชิ้นเล็ก ตะไคร้หั่น 2  หัว หอมแดง 2 หัว ซุปไก่ 1 ก้อน จากนั้นตำให้ทุกอย่างเข้ากันครับทุกคน ตำแค่พอแหลก ไม่ต้องละเอียดมาก เสร็จแล้วพักไว้ก่อน ขั้นตอนต่อมา ตั้งกะทะครับทุกคน ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมัน 1 ทัพพี …

ในเรื่องของการทำอาหารนั้นต้องบอกเลยว่าแต่ละเมนูอาจจะมีระยะเวลาในการทำที่ยาวนานหรือในแต่ละเมนูนั้นก็มีระยะเวลาในการทำที่น้อย แต่ถ้าหากเลือกเมนูอาหารที่ใช้ระยะเวลาในการทำที่ค่อนข้างนานนักแต่ความอร่อยนั้นมีความอร่อยอย่างมากก็ขอเลือก ต้มข่ากุ้ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมนูหนึ่งที่มีความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร เพราะด้วยวัตถุดิบและส่วนผสมที่ใส่เข้าไปใน ต้มข่ากุ้ง นั่นเองที่ยิ่งทานก็ยิ่งอร่อย แต่ความอร่อยนั้นจะมีอะไรบ้าง เราจะกล่าวกันดังต่อไปนี้ เริ่มด้วยความอร่อยที่เริ่มจากการเตรียมส่วนผสมและวัตถุดิบซึ่งในเมนูต้มข่ากุ้งนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีกุ้ง ซึ่งกุ้งที่เราใช้นั้นก็เป็นกุ้งกุลาดำ นอกจากนี้จะต้องมีการเตรียมข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมะนาว และที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ น้ำกะทิ ต้มข่ากุ้ง เมนูอาหารไทยที่ใครได้ลองทานเป็นต้องถูกปาก นอกจากน้ำกะทิแล้ว เรายังต้องเตรียมยอดมะพร้าวอ่อนอีกด้วย เพื่อที่จะทำให้เมนูต้มข่ากุ้งนั้น เป็นเมนูที่มีความอร่อยมากขึ้นไปอีก และไม่เพียงแต่ยอดมะพร้าวอ่อนเท่านั้น ยังมีส่วนผสม อย่าง พริกขี้หนูและผักชีที่จะต้องใส่เข้าไปในเมนูต้มข่ากุ้งนี้อีกด้วย ซึ่งเราขอบอกเลยว่าระยะเวลาในการทำนั้นไม่นานมากแต่ความอร่อยนั้นเหลือชั้นเลยทีเดียว และสูตรเด็ดของต้มข่ากุ้งที่มีความสำคัญเลย ก็คือ การใส่กะทิลงไปในเมนูนี้ ซึ่งกะทิที่ใส่ลงไปนั้นจะต้องเป็นกะทิที่มีการคั้นสดๆซึ่งถ้าหากกะทินั้นไม่มีความสดพอแล้วล่ะก็ ความอร่อยของเมนูต้มข่ากุ้งนี้ ก็คงจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ฉะนั้น กะทิที่ใส่ควรจะเป็นกะทิที่มีการคั้นสดๆเท่านั้นถึงจะอร่อย จะเห็นได้ว่า เมนูต้มข่ากุ้งเป็นเมนูอาหารที่เรียกได้ว่า มีความอร่อยที่ไม่เหมือนเมนูใดๆ แม้ว่าระยะเวลาในการทำเมนูนี้จะมีระยะเวลาที่ค่อนข้างนานมาก แต่ขอบอกได้เลยว่าความอร่อยไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นความอร่อยที่มีความมันด้วยน้ำกะทิที่ใส่ไปในเมนูนั่นเอง

เมนูอาหารที่เรียกว่า ต้มส้มนั้น ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่า ต้มส้ม  มีการใส่ผักที่มีความเปรี้ยว อย่างเช่น ใบมะขามแขก ซึ่งใบมะขามแขกนั้นก็จะมีรสชาติที่ทำให้เมนูต้มส้มมีความเปรี้ยวหรืออาจจะใส่ผักชนิดอื่นๆก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งก็สามารถที่จะทำให้เป็นต้มส้มได้เช่นเดียวกัน แต่ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่มีความแปลกแตกต่างจากต้มส้มอื่นๆ นั่นก็คือ ต้มส้มเห็ด ซึ่งบอกได้เลยว่าต้มส้มเห็ดนั้น จะทำให้ผู้รับประทานมีความหอมตัวเห็ดที่ใส่เข้าไปในเมนู ต้มส้มเห็ด เป็นต้มส้มชนิดหนึ่งที่มีการใส่เห็ดหลายๆพันธุ์เห็ดด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็น เห็ดฟาง เห็ดหูหนู และนอกจากเห็ดที่ใส่ในต้มส้มนี้แล้ว ก็ยังมีเครื่องปรุงอื่นๆอีกด้วยที่จะทำให้เมนูต้มส้มเห็ดนั้นมีความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำสต๊อกเห็ดที่มีการเตรียมไว้อย่างเพียงพอหรือว่าจะเป็นตะไคร้ที่มีการหั่นเป็นท่อนๆ หรือว่าจะเป็นข่าที่มีการหั่นเป็นแว่นๆไว้ นอกจากนี้ก็ยังมีขมิ้นสด และดอกกะหล่ำที่สามารถจะใส่เข้าไปในเมนูต้มส้มเห็ดได้อีกด้วย ที่กล่าวมานั้นไม่ใช่เพียงแค่วัตถุดิบเล็กๆน้อยๆที่มีการใส่เข้าไปในเมนูต้มส้มเห็ดแต่ยังมีซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย หรือแม้แต่กะปิก็สามารถที่จะใส่ได้ เพื่อให้ต้มส้มนั้นมีความกลมกล่อม จะเห็นได้ว่า เมนูต้มส้มเห็ดเป็นเมนูอาหารที่มีความกลมกล่อมอย่างลงตัว เนื่องด้วยเครื่องปรุงที่มีการปรุงเข้าไปในเมนูต้มส้มนั่นเอง นอกจากวัตถุดิบที่เป็นเห็ดและเครื่องปรุงต่างๆที่ใส่เข้าไปแล้ว ก็ยังสามารถที่จะใส่ใบมะกรูดและพริกเพื่อทำให้เมนูต้มส้มนั้นมีความหอมขึ้นไปอีกได้

หมึกผัดฉ่า เมนูอาหารธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเริ่มจากการคัดเลือกหมึกที่เราใช้หมึกกล้วย หมึกที่มีลักษณะยาว เนื้อแน่นกรุบเฉพาะสายพันธุ์ ต่อด้วยเครื่องสมุนไพรนานาพรรณที่ล้วนมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์พร้อมคุณค่านานาทั้งช่วยเรื่องเลือดลม ความดัน เป็นต้น มาผสมรวมและปรุงเป็นเมนูเลิศรสอย่าง หมึกผัดฉ่า เราไปพบกับกรรมวิธีการทำเมนูเด็ดเมนูดังนี้พร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบสำหรับเมนูหมึกผัดฉ่า 1.หมึกกล้วย ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด 2.กระเทียม ปริมาณ 10 – 15 กลีบ 3.พริกขี้หนู ปริมาณ 10 – 15 เม็ด 4.กระชาย ปริมาณ 50 กรัม 5.ใบมะกรูด ปริมาณ 10 – 15 ใบ 6.พริกชี้ฟ้าสีเหลือง ปริมาณ 3 – 5 เม็ด 7.ใบโหระพา ปริมาณ 1 กำมือ 8.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ …

ถ้าให้นึกถึงอาหารใต้ที่คุ้นเคยในระยะเวลาอันสั้น เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะตอบโดยพร้อมเพรียงกันว่า คั่วกลิ้งหมู เพราะเป็นเมนูที่มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเมนูอาหารใต้อย่างแน่นอน ไม่เหมือนกับแกงประเภทอื่นที่มันชวนให้ลังเลอยู่บ้าง ด้วยว่ามีเมนูใต้บางอย่างที่คล้ายกับอาหารของภาคตะวันออกนั่นเอง แล้วเราก็พบเจอคั่วกลิ้งได้บ่อยไปในร้านอาหารปักษ์ใต้ แบบว่าเข้าร้านไหนก็ต้องมี ราวกับว่าเป็นเมนูพื้นฐานที่แสดงตัวว่าที่นี่ขายอาหารใต้จริงๆ                หากเปรียบเทียบ คั่วกลิ้งหมู ก็จะเหมือนกับลาบคั่วของภาคอีสาน ที่เอาเนื้อสัตว์มาคั่วกับเครื่องแกงหลากหลายชนิด เน้นให้มีความหอมและมีรสจัดจ้าน ทานคู่กับผักสดนับว่าเข้ากันดี นั่นหมายความว่าคั่วกลิ้งไม่ได้มีแค่หมูเท่านั้น จะใช้ไก่ก็ได้ ใช้อาหารทะเลก็ได้ด้วย เพียงแค่ไม่ค่อยนิยมกันเท่าไร ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครลองทำ แต่เนื้อหมูให้รสสัมผัสที่ดีที่สุดเท่านั้น                ส่วนประกอบสำหรับการทำเมนูคั่วกลิ้งหมูก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่มีกะปิ พริกสด พริกไทย ใบมะกรูด และเครื่องปรุงต่างๆ อย่างพวกน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เป็นต้น จุดสำคัญจึงอยู่ที่การเลือกพระเอกของจาน เนื้อหมูที่ใช้ต้องไม่ติดมัน และควรสับให้ละเอียดอย่าให้ติดกันเป็นแพยาว จะใช้สะโพกผสมกับสันในก็ได้ หรือกจะใช้สันในผสมสันนอกก็ดี วิธีทำก็แค่เอาเครื่องแกงลงไปผัดพอสุก จากนั้นก็เทหมูตามลงไป รวนให้เข้ากันดี โดยสังเกตจากสีของเนื้อหมูว่าเหลืองนวลทั่วดีหรือยัง                สิ่งที่ทำให้คั่วกลิ้งหมูแต่ละที่แตกต่างกัน ก็คือความใส่ใจระหว่างการปรุงนี่เอง เนื่องจากส่วนประกอบที่ต้องใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยากและการเลือกสรรวัตถุดิบแต่ละที่ ถึงจะต่างกันก็ไม่ได้มีผลมากมายขนาดนั้น มันจึงอยู่ที่การใช้ไฟ วิธีการคั่วหมูให้สุกพอดี ไม่มากเกินไปจนทำให้เนื้อเหนียวหรือแข็ง

เครื่องจิ้มประเภท น้ำพริก ของไทยมีมากมาย ซึ่งในแต่ละภาคนั้น ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างเช่นเดียวกัน และทางภาคอีสานก็มี น้ำพริก ที่มีเอกลักษณ์ เพราะมีปลาร้าเป็นส่วนประกอบ และหาวัตถุดิบได้ตามพื้นบ้านทั่วไป เรียก น้ำพริก ต่าง ๆ ว่า “แจ่ว” หรือ “ป่น” ทางภาคอีสานมี “แจ่ว” และ “ป่น” มากมายเช่น แจ่วปลาร้าหรือแจ่วบอง แจ่วเห็ด ป่นปลาร้า ป่นปลาทู ป่นเห็ด เป็นต้น                แจ่วบองหรือแจ่วปลาร้า เป็นหนึ่งในน้ำพริกของทางภาคอีสานซึ่งแน่นอนว่าต้องมี “ปลาร้า” เป็นส่วนประกอบ ส่วนวิธีการทำ แจ่วบองหรือแจ่วปลานั้น ทำโดย ย่างปลาร้าปลาช่อนที่ห่อใบตองสัก 2 – 3 ชั้น ให้หอม หลังจากนั้น โขลกหอมหัวแดง และกระเทียมเผาให้ละเอียด จากนั้นใส่ตะไคร้และข่าซอย ตำต่อไปให้เข้ากัน จากนั้นนำใบมะกรูดเลาะแกนตรงกลางของใบมะกรูดออกซอย และตำให้เข้ากับน้ำพริกที่โจลกไว้ให้ตอนแรก แกะเนื้อปลาร้าปลาช่อนโขลกให้เป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำพริกแจ่ว ปรุงรสให้เปรี้ยวด้วยมะขามเปียกสับ และความเผ็ดด้วยพริกป่นคั่ว จนรสชาติของแจ่วบอง หรือแจ่วปลาร้าได้รสชาติตามที่ต้องการ …

ถ้ากล่าวถึงอาหารเหนือหลาย ๆ ท่านอาจจะคิดถึงขันโตก ซึ่งมี หมูทอด ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคบหมู ข้าวเหนียว แต่เมื่อกล่าวถึง อาหารเหนือพื้นบ้าน ของชาวเหนือแล้วละก็ ทุกท่านจะคิดถึงอะไรกัน คงจะนึกไม่ออกเลยใช่ไหม แล้วถ้าถามว่าเคยได้ยินเพลงของคุณลานนา คัมมินส์ ที่ร้องว่า “เคยกิ๋นผักกาดจอ บ่เคยกิ๋นพิซซ่า หากว่าลุต๊องจะยะจะใด” (เคยทานแต่ผักกาดจอ ไม่เคยทานพิซซ่า หากว่าท้องเสียขึ้นมาจะทำอย่างไร) ก็อาจจะมึน ๆ ว่า แล้วผักกาดจอมันคือเมนูอาหารประเภทไหน ถ้าอย่างนั้นเรามาเรียนรู้ไปด้วยกันว่าผักกาดจอคืออะไร                ผักกาดจอ หรือจอผักกาด เป็น อาหารเหนือพื้นบ้าน ประเภทต้ม ผักกาดที่กล่าวถึงไม่ใช่ผักกาดขาวอย่างที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจ ชาวเหนือจะเรียกผักชนิดนี้ว่า “ผักกาดจ้อน” หรือเราอาจจะรู้จักกันในชื่อว่า “ผักกวางตุ้ง” ที่มีดอกสีเหลืองนั่นเอง กรรมวิธีคือ เตรียมตั้งน้ำซุป ต้มพร้อมเครื่องแกง ประกอบไปด้วย หอมหัวแดง กะปิ ถั่วเน่าที่ย่างไฟแล้ว (ถั่วเน่า คือถั่วเหลืองหมักที่นำไปตากแห้ง เวลาใช้นำไปย่าง หรือจี่กับไฟ มักจะนำไปตำพร้อมกับเครื่องแกง) …

คั่วกลิ้งหมูสับ เมนูคลุกคลิกเผ็ดร้อนอาหารไทยสไตล์แดนใต้ สำหรับเมนูนี้จัดเป็นเมนูอาหารท้องถิ่นของทางภาคใต้ของประเทศไทย เป็นผัดแบบแห้งๆ ส่วนรสชาติก็เผ็ดร้อน สำหรับเคล็ดลับของเมนู คั่วกลิ้งหมูสับ ก็อยู่ที่เครื่องแกงคั่วกลิ้ง ซึ่งวันนี้เราจะนำมาเปิดเผยกรรมวิธีการทำตั้งแต่การเตรียมเครื่องแกงกันเลย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกรรมวิธีการทำพร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบสำหรับเครื่องแกงคั่วกลิ้ง 1.พริกชี้ฟ้าแห้ง ปริมาณ 10 เม็ด 2.พริกไทยแบบเม็ด ปริมาณ 10 เม็ด 3.หอมแดง ปริมาณ 50 กรัม 4.ขมิ้น ปริมาณ 50 กรัม 5.กระเทียม ปริมาณ 18 กรัม 6.ตะไคร้ ปริมาณ 6 กรัม 7.ข่า ปริมาณ 6 กรัม 8.รากผักชี ปริมาณ 2 กรัม 9.ลูกผักชี ปริมาณ 2 กรัม 10.ยี่หรา ปริมาณ 1 กรัม 11.กะปิ ปริมาณ 1 …

เมนูอาหารที่ไม่มีขายนั้นแน่นอนว่าเราจะต้องทำกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น ครัวในบ้าน ทั้งนั้นที่จะบรรจงแต่งแต้ม รังสรรอาหารจานต่าง ๆ ให้น่ารับประทาน และอาหารบางอย่างก็จะมีเฉพาะบ้าน หรือเฉพาะครอบครัวเท่านั้น เพราะว่ามีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนวัตถุดิบบางประเภท เพราะฉะนั้นแล้ว ครัวในบ้าน จึงเป็นอาหารที่ไม่ว่าบ้านไหน ๆ หรือ ครอบครัวใด ๆ ก็ไม่สามารถลอกเลียนให้เหมือนได้ และก็ไม่มีขายในร้านค้าหรือร้านอาหารไหน ๆ อย่างแน่นอน ถ้าอยากจะทานก็ต้องทำทานเอง และถ้าอยากให้อร่อยก็ต้องปรุงเอง                สำหรับบทความนี้ครัวในบ้านจะนำเสนออาหาร 3 เมนูที่รับรองว่าไม่มีขายตามท้องตลาดอย่างแน่นอน ซึ่งเมนูแรกนี้ขอนำเสนอกับเมนู “แกงส้ม” แต่ไม่เหมือนกับแกงส้มที่เคย ๆ รับประทานกันแน่นอนเพราะ แกงส้มนี้ไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ที่เป็นปลา หรือกุ้ง แต่ใช้เป็นหมูสามชั้น และไม่ใช้ผักต่าง ๆ ที่เคยทานอย่างกะหล่ำปลี ผักกาดขาว หรือผักกะเฉด แต่เป็น กระเจี๊ยบเขียวซึ่งจะทำให้รสสัมผัสของแกงส้มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น สำหรับส่วนผสมของพริกแกงอาจจะเหมือน ๆ กับน้ำพริกแกงส้มทั่วไป คือ พริกจินดามณ๊แห้ง พริกขี้หนูแห้ง หอมหัวแดง กระชาย กะปิ โขลกให้เข้ากัน ตั้งน้ำต้มเนื้อหมูสามชั้นกับเกลือเล็กน้อย และหมั่นคอยช้อนไขมันที่ออกมาทิ้ง ระหว่างนี้ก็เตรียมหั่นกระเจี๊ยบเขียวแนวขวาง …

ร้านอาหารทะเลเจ้าดังประจำตัวเมืองหัวหินคงมีให้เลือกกันไม่น้อย แต่หากเป็นร้านดังใกล้แหล่งท่องเที่ยวอย่างสวนน้ำนาวาวานาคงจะมีเพียงร้านเดียว นั่นคือ ร้านอร่อย @ หัวหิน เมื่อเราเดินทางมาถึงทางร้านก็เข้าสู่ลานจอดรถ ซึ่งมีพื้นที่ไม่มากนัก รวมถึงหากจะกลับรถ หรือ วนรถ เข้าและออกจะยากสักหน่อยสำหรับนักขับมือใหม่ เมื่อมาถึงหน้าร้านเราก็พบกับความประทับใจแรก นั่นก็คือ ทางลาดขึ้นไปยังตัวร้านสำหรับวีลแชร์ หรือ รถเข็นเด็ก ตามที่เราเกริ่นกันไว้ตอนต้นว่า ร้านอร่อย @ หัวหิน เป็นร้านดังประจำจังหวัด ทำให้เมื่อถึงช่วงเทศกาล หรือ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะไม่ค่อยมีโต๊ะว่างนัก โดยเฉพาะช่วงของมื้ออาหารอย่าง 11.00 น. ถึง ช่วงบ่ายโมง (ทางร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 21.30 น.) หากมารับประทานร้านนี้ในช่วงเทศกาล หรือ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เราขอแนะนำให้โทรจองโต๊ะกันไว้ก่อนที่จะมาถึงที่เบอร์โทรศัพท์ 0835624444ร้านอร่อย @ หัวหินมีบริเวณโต๊ะนั่งรับประทานอาหาร 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นแรกจะไม่มีแอร์ ส่วนชั้นบนจะมีแอร์ เพื่อนๆ สามารถเลือกพื้นที่โต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารได้ตามชื่นชอบกันเลย ร้านอร่อย @ หัวหิน กับเมนูอาหารมากมายให้เลือกทาน ส่วนเมนูอาหารของที่นี่ก็ใช้วัตถุดิบสดใหม่อย่างพวกอาหารทะเล รวมกับรสชาติเผ็ดร้อนเฉพาะตัวของทางปักษ์ใต้ …