เชื่อว่าจนถึงวันนี้หลายคนก็ยังสับสนอยู่ ระหว่าง “สละ” และ “ระกำ” โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยนิยมทานกันมากเท่าไร ความจริงมีวิธีสังเกตุอยู่ และต้องดูให้รู้ด้วย เพราะเราจะได้เลือกวัตถุดิบมาทำเมนูอาหารอย่าง น้ำพริกระกำ ได้อย่างถูกต้อง อย่างแรกที่ต้องดูเลยก็คือลักษณะของผล สละจะมีผลที่รียาวกว่า ระกำค่อนข้างกลมป้อม ส่วนของเปลือกก็ดูไม่ยาก สละจะเป็นเกล็ดซ้อนทับกัน ขณะที่ระกำจะเป็นเหมือนหนามแหลมและแข็ง
ทีนี้เมื่อเลือกระกำได้แล้ว ก็ถึงคราวลงครัวโขลก น้ำพริกระกำ กันได้ ส่วนผสมที่นอกเหนือไปจากระกำก็มีไม่มากนัก และสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน ได้แก่ พริกสด ถ้าเป็นพริกขี้หนูจะดีมาก กุ้งแห้ง กระเทียม หลักๆ มีเพียงเท่านี้เอง แล้วก็มีเครื่องปรุงรสอีกแค่ 3 อย่าง คือน้ำตาล น้ำปลา และกะปิ หมายความว่าขอให้ได้ระกำมา แค่นี้ก็ทำทานกันได้แล้ว
ขั้นตอนการทำน้ำพริกระกำก็ง่ายดายไม่แพ้การสรรหาวัตถุดิบ เริ่มจากโขลกกุ้งแห้งให้แตกฝอยก่อน เทคนิคที่ใช้ได้ดีก็คือ การเอากุ้งแห้งไปแช่น้ำไว้สักพัก ส่วนหนึ่งก็เพื่อล้างฝุ่นผง อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้เนื้อนุ่มลง เวลาโขลกจะขึ้นฟูได้เร็ว จากนั้นให้นำพริก กระเทียมใส่ตามลงไป โขลกจนทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปิดท้ายด้วยพระเอกของเรา เนื้อระกำฝาน คราวนี้ต้องโขลกเบามือหน่อย เพราะจะมีน้ำระกำออกมา โขลกแรงไปก็จะกระเด็นออกมาให้แสบร้อนกันเปล่าๆ
น้ำพริกระกำจะมีรสจัดจ้านและอมเปรี้ยวโดยธรรมชาติ จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ทานเมื่อไรก็อร่อย เหมาะมากกับปลาย่างและข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าทานจนลืมตัวทุกรายไป ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของน้ำพริกสูตรนี้ก็คือ ต้องตำสดใหม่แล้วทานเท่านั้น ไม่ควรเก็บค้างไว้ และอีกอย่างหนึ่ง ระกำก็ค่อนข้างหายาก มีขายตามฤดูกาลเท่านั้นเอง บางที่ได้ทานกันปีละหนเท่านั้น
