อาหารไทย

ถ้าหากใครได้มีโอกาสไปประเทศสิงค์โปรก็ต้องไม่พลาดที่จะไปกินของอร่อยขึ้นชื่ออย่าง ข้าวมันไก่บุญตงกี่ อย่างแน่นอน เพราะที่นี้เขาจะขึ้นชื่อในเรื่องของข้าวมันไก่เป็นอย่างมาก รวมไปถึงรสชาติของตัวไก่ที่มีความเข้มข้นและหอมนุ่มกว่าที่ได้ในโลก ซึ่งเราก็คิดว่าข้าวมันไก่ของบ้านเราเด็ดแล้ว แต่ของบ้านเขาก็รสชาติอร่อยกว่าที่ใดที่ได้เคยกินมาเลย                เพราะ ข้าวมันไก่บุญตงกี่ เขาก็ได้มีสูตรลับของเขาที่ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่สามารถที่ระล่วงรู้สูตรเด็ดอันนี้ได้ซึ่งเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ ที่บอกเคล็ดลับของร้านตัวเอง ถึงแม้จะเป็นร้านแฟรนไชย์ก็ยังต้องไปรับไก่ที่ได้ผ่านการปรุงรสจากทางร้านแล้วเท่านั้น และร้านที่อยู่ในเมืองไทยหลาย ๆ ร้านเอง ก็ต้องนำเข้าไก่จากประเทศสิงค์โปร์เหมือบกับที่อื่น ๆ เลย ก็เพราะรสชาติและระดับความอร่อยจะได้หมือนกับร้านต้นฉบับนั่นเอง และไม่ว่าลูกค้าจะไปกินข้าวมันไก่บุญต่งกี่สาขาไหนก็ตาม ก็จะได้อร่อยกับรสชาติของข้าวมันไก่บุญต่งกี่เหมือนเดิม                ซึ่งก็ถือว่าเป็นการรักษามาตราฐานได้ดี แต่บางคนก็กับมองว่าเขาหวงสูตรนั่นเอง เพราะไม่ว่ารายการไหนที่ไปถ่ายทำแนะนำรายการอาหาร ก็มักจะได้แค่ถ่ายเกี่ยวกับข้าวมันไก่และบรรยากาศรอบ ๆ ร้านเท่านั้น และไม่เคยที่จะได้เห็นขั้นตอนของการทำไก่ของเขาเลย ซึ่งทางร้านเขาก็จะขอข้ามส่วนนี้ไปแต่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่เราจะได้ลิ้มลองความอร่อยของ ข้าวมันไก่บุญต่งกี่ ที่ไม่เหมือนใครนั้นเอง                อีกทั้งร้านข้าวมันไก่บุญต่งกี่ก็ไม่ได้แค่ดังในเรื่อง ข้าวมันไก่ อย่างเดียวเท่านั้น เมนูอาหาร อื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กันกับเมนู เต้าหูทอด อย่างที่บอกเลยว่ามีที่นี้ที่เดียวเท่านั้นที่ทอดเต้าหู้ได้อร่อยไม่เหมือนใคร ยากจะหาร้านใดมาเปรียบได้เลย และอีกเมนูหนึ่งที่ขาดได้นั้นก็ถือ เขาหยก นั้นเอง ซึ่งเมนูนี้หากใครที่ชื่นชอบในการทานหมูสามชั้นแล้วละก็ อยากจะแนะนำให้สั่งมาลองทานกันดู รับร้องว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน และในปัจจุบันเราก็ไม่ต้องบินไปไกลถึงสิงค์โปรแล้วด้วย ในประเทศไทยเองก็มีหลายสาขาให้เราได้ไปลองชิมกันดู   …

นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้เกิดความหวาดหวั่นถึงความไม่ปลอดภัยของการบริโภคอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล ปลาหมึกและกุ้ง จนในช่วงหลังต้องมีการออกมาให้ความรู้ว่าอาหารทะเลสดเหล่านี้ไม่ใช่พาหะแพร่เชื้อ ซึ่งหากจะว่าไปแล้วการบริโภคอาหารทะเลในสมัยปัจจุบันสามารถรับประทานได้ง่ายด้วยไปซื้อที่ตลาด แต่เชื่อหรือไม่ว่าการบริโภคอาหารทะเลใน มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว           พ.ศ.2230 มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์  เอกอัครราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ทูลพระราชสาส์นจากฝรั่งเศสมายัง สมเด็จพระนารายณ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยช่วงที่เจ้าตัวอยู่ในอยุธยาราว 3 เดือน ได้บันทึกเรื่องราวต่างๆไว้มากมายและหนึ่งในนั้นคือการพูดถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของชาวอยุธยาไว้อย่างน่าสนใจ           ในอยุธยาเป็นเมืองที่มีแม่น้ำและลำคลองมากมาย ทำให้ผู้คนนิยมการจับปลาขึ้นมารับประทานกับข้าว เป็นอาหารหลัก พร้อมรับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ (ลาลูแบร์เรียกว่ากะปิเน่า เพราะมีกลิ่นแรง) หรือในบางครั้งจะมีการนำปลาไปถนอมอาหารด้วยกรรมวิธีตากแห้งและหมักดอง โดยการดองปลากระดี่ หรือที่เรียกว่าปลาร้าเป็นอาหารชั้นเลิศของที่นี่ ทำให้ก่อนกลับมีผู้มอบปลาร้าแก่ ลาลูแบร์ กลับไปรับประทานที่ฝรั่งเศสด้วย           ในส่วนของ อาหารทะเล จะมีขายบริเวณทางทิศใต้ของเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งมีหอยแมลงภู่ หอยกะพง ปูทะเล แมงดา กุ้ง และปลาทะเล ที่เนื้อดีมีคุณภาพ (แต่ลาลูแบร์ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นปลาชนิดอะไร) โดยเรือเหล่านี้จะทำประมงที่ปากแม่น้ำทางทิศใต้ เช่น สมุทรสาคร …

ในเรื่องของการทำอาหารนั้นต้องบอกเลยว่าแต่ละเมนูอาจจะมีระยะเวลาในการทำที่ยาวนานหรือในแต่ละเมนูนั้นก็มีระยะเวลาในการทำที่น้อย แต่ถ้าหากเลือกเมนูอาหารที่ใช้ระยะเวลาในการทำที่ค่อนข้างนานนักแต่ความอร่อยนั้นมีความอร่อยอย่างมากก็ขอเลือก ต้มข่ากุ้ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมนูหนึ่งที่มีความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร เพราะด้วยวัตถุดิบและส่วนผสมที่ใส่เข้าไปใน ต้มข่ากุ้ง นั่นเองที่ยิ่งทานก็ยิ่งอร่อย แต่ความอร่อยนั้นจะมีอะไรบ้าง เราจะกล่าวกันดังต่อไปนี้ เริ่มด้วยความอร่อยที่เริ่มจากการเตรียมส่วนผสมและวัตถุดิบซึ่งในเมนูต้มข่ากุ้งนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีกุ้ง ซึ่งกุ้งที่เราใช้นั้นก็เป็นกุ้งกุลาดำ นอกจากนี้จะต้องมีการเตรียมข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมะนาว และที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ น้ำกะทิ ต้มข่ากุ้ง เมนูอาหารไทยที่ใครได้ลองทานเป็นต้องถูกปาก นอกจากน้ำกะทิแล้ว เรายังต้องเตรียมยอดมะพร้าวอ่อนอีกด้วย เพื่อที่จะทำให้เมนูต้มข่ากุ้งนั้น เป็นเมนูที่มีความอร่อยมากขึ้นไปอีก และไม่เพียงแต่ยอดมะพร้าวอ่อนเท่านั้น ยังมีส่วนผสม อย่าง พริกขี้หนูและผักชีที่จะต้องใส่เข้าไปในเมนูต้มข่ากุ้งนี้อีกด้วย ซึ่งเราขอบอกเลยว่าระยะเวลาในการทำนั้นไม่นานมากแต่ความอร่อยนั้นเหลือชั้นเลยทีเดียว และสูตรเด็ดของต้มข่ากุ้งที่มีความสำคัญเลย ก็คือ การใส่กะทิลงไปในเมนูนี้ ซึ่งกะทิที่ใส่ลงไปนั้นจะต้องเป็นกะทิที่มีการคั้นสดๆซึ่งถ้าหากกะทินั้นไม่มีความสดพอแล้วล่ะก็ ความอร่อยของเมนูต้มข่ากุ้งนี้ ก็คงจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ฉะนั้น กะทิที่ใส่ควรจะเป็นกะทิที่มีการคั้นสดๆเท่านั้นถึงจะอร่อย จะเห็นได้ว่า เมนูต้มข่ากุ้งเป็นเมนูอาหารที่เรียกได้ว่า มีความอร่อยที่ไม่เหมือนเมนูใดๆ แม้ว่าระยะเวลาในการทำเมนูนี้จะมีระยะเวลาที่ค่อนข้างนานมาก แต่ขอบอกได้เลยว่าความอร่อยไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นความอร่อยที่มีความมันด้วยน้ำกะทิที่ใส่ไปในเมนูนั่นเอง

หากเราจะหาประโยชน์จากการรับประทานอาหารแกงต่างๆที่เราเลือกทานในแต่ละมื้อนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะแกงแต่ละแกงที่คุณเลือกทานนั้นบอกได้เลยว่ามีทั้งผักและเนื้อสัตว์ในแกงๆเดียวอย่างพร้อม ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีหลากหลายแกงมาก แต่ถ้าหากจะเลือกแกงใดแกงหนึ่งมาเป็นแกงที่ยิ่งทานก็ยิ่งมีประโยชน์ก็ต้องเลือก แกงเลียง เท่านั้น เนื่องมาจากแกงเลียงนั้นมีวัตถุดิบที่เหมาะสำหรับผู้รับประทานเป็นอย่างยิ่ง มีสมุนไพรมากมายใน แกงเลียง ฉะนั้น หากคุณเลือกรับประทานแกงเลียงแล้วรับรองว่าร่างกายของคุณก็จะมีความแข็งแรงอย่างแน่นอน การรับประทานแกงเลียงถือได้ว่าเป็นการรับประทานเมนูอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง เพราะยิ่งทานก็ยิ่งที่จะทำให้คนเรานั้นมีภูมิต้านทานที่ดี เนื่องจากในเมนูแกงเลียงนี้มีทั้งผักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟักทอง ใบแมงลัก ตำลึง หรือว่าบวบ ก็มีการใส่รวมเข้าไปในแกงเลียง แกงเลียง ถือได้ว่าเป็นการรับประทานเมนูอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แกงเลียงเป็นแกงที่มีการรวบรวมพืชสมุนไพรต่างๆไว้อย่างมากมาย ซึ่งแต่ละสมุนไพรที่ใส่นั้นก็มีคุณค่าและประโยชน์ทางอาหารทั้งสิ้น อย่างเช่น พริกไทย เป็นสมุนไพร ที่เรียกได้ว่า ช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่หอมแดงก็ช่วยในเรื่องของการลดการติดเชื้อได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้แกงเลียงยังถือได้ว่าเป็นแกงที่รวบรวมวิตามินซีไว้อย่างหลากหลาย และยังเป็นแกงที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคหวัดได้อย่างดีอีกด้วย ฉะนั้น ในยุคของโรคระบาด covid นี้หากคุณหาแกงเลียงมารับประทานได้ก็จะยิ่งดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก จะเห็นได้ว่าแกงเลียงเป็นแกงที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเลือกทานก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นแกงที่อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆมากมาย และเป็นเมนูอาหารที่รวบรวมวิตามินไว้อย่างเยอะอีกด้วย

ในการที่จะเลือกรับประทานอาหารแต่ละเมนูนั้น เริ่มแรกที่เราเลือกรับประทานก็เพราะว่าเป็นเมนูที่มีหน้าตาน่ารับประทาน อย่างเช่น เมนู แกงจืด กะหล่ำปลียัดไส้หมูสับ ก็ถือได้ว่าเป็นแกงจืดที่มีหน้าตาน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุที่มีการนำหมูสับนั้นใส่เข้าไปในกะหล่ำปลี ซึ่งเป็นการใส่เข้าไปในกะหล่ำปลีทั้งลูก ก็ยิ่งทำให้เป็นเมนูอาหารที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากที่จะทาน ขอบอกเลยว่า แกงจืด นี้มีวัตถุดิบที่คุณจะต้องเตรียมไม่มากเลย ซึ่งวัตถุดิบที่จะต้องเตรียมอย่างง่ายๆเลยก็คือ หมูสับและกะหล่ำปลี 1 ลูก นอกจากนี้ก็ยังต้องเตรียมเครื่องปรุง อย่าง พริกไทย ซอสปรุงรส หรือแม้แต่น้ำมันหอย คุณก็ต้องมีการเตรียมไว้อีกด้วย ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะทำให้เมนูแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้หมูสับนี้มีความอร่อยมากยิ่งขึ้น และต้องบอกเลยว่าเมนูแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้หมูสับนั้น เป็นเมนูแกงจืดที่มีวิธีการทำที่ง่ายอย่างมาก เพียงแค่คุณนำหมูสับที่คุณเตรียมไว้ใส่ชามให้เรียบร้อย จากนั้นคุณอาจจะนำแครอทหรือเห็ดหอมที่คุณต้องการที่จะใส่ ทำการหั่นเต๋าให้เรียบร้อย แล้วคุณก็ทำการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ แกงจืด เมนูง่าย ๆ สุดโปรดของหลายบ้านทำกินเองได้ เมื่อคุณนำหมูสับและแครอทหรือแม้แต่เห็ดหอมที่คุณเตรียมไว้ปรุงรสเรียบร้อยแล้ว จากนั้นคุณก็เริ่มทำการนำกะหล่ำปลีมาฝานให้เป็นวงกลม เพื่อที่จะใส่ไส้หมูสับที่เตรียมไว้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแกงจืดที่มีวิธีการทำที่ง่ายมากๆ หลังจากนั้นคุณก็ใส่หมูสับที่มีการคลุกเคล้าไว้เรียบร้อยแล้วลงไปในกะหล่ำปลี เพียงเท่านี้เมนูแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้หมูสับก็มีหน้าตาที่น่าทานแล้ว จะเห็นได้ว่า วิธีการทำเมนูแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้หมูสับนั้น เป็นเมนูแกงจืดที่ทำง่าย แต่ความอร่อยนั้นขอบอกเลยว่าเป็นความอร่อยที่แตกต่างจากเมนูอาหารอื่นและด้วยหน้าตาที่น่าทานแล้วก็ยิ่งทำให้หลายคนอยากที่จะลิ้มชิมรสเมนูนี้กัน

หากจะกล่าวถึงวัตถุดิบในการทำอาหารแล้วก็ต้องบอกเลยว่าส่วนใหญ่นั้น วัตถุดิบหลักๆก็จะเป็นเนื้อสัตว์แต่นอกจากเนื้อสัตว์แล้วก็ยังมีผักนานาชนิด แต่ในที่นี้เราจะกล่าวถึงผักชนิดหนึ่งที่บางคนหรือหลายๆคนอาจจะหาทานยาก เพราะว่าส่วนใหญ่มักจะปรากฏอยู่ในป่า นั่นก็คือ เห็ดนั่นเอง แต่ปัจจุบัน เห็ด สามารถที่จะนำมาปลูกในเมืองได้ซึ่งอาจจะทำเป็นโรงเรือนในการไว้ปลูก เห็ด โดยเฉพาะ และเหตุนี้เองที่ปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่า มีการนำเห็ดมาทำเป็นอาหารหลากหลายเมนูเลย ฉะนั้น ในที่นี้เราจะขอกล่าวถึงเมนูอาหารที่เกี่ยวกับเห็ดให้คุณได้ทราบกัน ดังนี้ เริ่มจากเมนูอาหารที่เรียกว่า แกงเห็ดขอนผักหวานป่า เป็นแกงเห็ดที่บอกเลยว่ามีรสชาติที่มีความกลมกล่อม แต่ความกลมกล่อมนั้นก็มีรสชาติที่เผ็ดอยู่ด้วย ด้วยการใส่เครื่องแกงเผ็ดเข้าไปในแกงเห็ดนั่นเอง นอกจากเมนูอาหารที่เรียกว่า แกงเห็ดขอนผักหวานป่าแล้ว ก็ยังมีต้มแซ่บเห็ดอีก ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าต้องต้มแซ่บนั้น ก็มักจะใช้เห็ดฟางซึ่งมีลักษณะเป็นดอกตูมๆใส่เข้าไปในต้มแซ่บ เมื่อทานกับข้าวร้อนๆแล้วก็ยิ่งมีความอร่อยแปลกไปอีกแบบ หรือจะเป็นเมนูต้มเห็ดหน่อไม้ก็มีความอร่อยและแปลกเช่นเดียวกัน เพราะในต้มเห็ดหน่อไม้นี้ ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่ามีหลากหลายเห็ดด้วยกันที่ใส่รวมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นเห็ดนางรม เห็ดเข็มทอง หรือแม้แต่เห็ดหูหนูก็ตาม ก็สามารถที่จะใส่เข้าไปในเมนูอาหารนี้ได้ จะเห็นได้ว่าเห็ดนั้นถือได้ว่าเป็นผักที่แม้ว่าใครๆจะมองว่าจะหาได้ยาก แต่ปัจจุบันนั้นหาได้ง่ายแล้ว และสามารถที่จะนำมาทำเป็นเมนูอาหารได้อย่างดีเยี่ยมและสามารถที่จะทำได้หลากหลายเมนูอีกด้วย

ในการรับประทานอาหารในทุกๆมื้อนั้น แต่ละครอบครัวก็ต้องมีเมนูที่ชอบและเมนูที่ต้องการรับประทานอยู่แล้ว แต่ถ้าหากสำหรับบางคนนั้นอาจจะเลือกเมนูที่รับประทานไม่ได้ ในที่นี้เราขอแนะนำให้คุณเลือกรับประทานเมนูที่เรียกว่า ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู เพราะว่าเมนูนี้จะทำให้คุณนั้นได้รับประทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย และด้วยความโดดเด่นของปลาทูที่มีเนื้อที่อร่อยอยู่แล้ว และในข้าวเองก็มีการผัดด้วยน้ำพริกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ก็ยิ่งทำให้เมนูอาหารมื้อนี้มีแต่ความเลิศรส ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ถ้าหากจะบอกว่ามีวัตถุดิบอะไรบ้างที่คุณสามารถทำได้ เราก็ต้องบอกเลยว่ามีวัตถุดิบที่หาได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาทู ซึ่งส่วนใหญ่ปลาทูนั้นก็จะต้องเป็นปลาทูจากแม่กลองเท่านั้นถึงจะทำให้ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูมีความอร่อยและเลิศรสอย่างที่ต้องการ ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู เมนูนี้จะทำให้คุณนั้นได้รับประทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย นอกจากปลาทูจากแม่กลองแล้ว ในเมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทูก็ยังมีน้ำพริกที่เป็นจุดเด่นของการนำมาผัดกับข้าวอีกด้วยที่จะทำให้เมนูนี้มีความเลิศรสได้ง่ายๆ ซึ่งในน้ำพริกนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีส่วนผสมที่เป็นพริกขี้หนู พริกหยวก หอมแดง กระเทียม น้ำปลา หรือแม้จะเป็นน้ำมะนาวก็ตามก็ต้องมีอยู่ในน้ำพริก ส่วนวัตถุดิบอื่นๆนั้นในเมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทู คุณก็สามารถที่จะใช้ผักต้มเป็นเครื่องเคียงได้ ซึ่งผักต้มนั้นก็อาจจะเป็นแครอทหรือมะเขือยาวก็ด้ เพื่อการสร้างสีสันและความอร่อยให้กับเมนูนี้มีความเลิศรสอย่างที่คุณต้องการ จะเห็นได้ว่า เมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทูไม่ว่าจะเป็นในส่วนของปลาทูเอง หรือจะเป็นในส่วนของน้ำพริกเอง  ก็ล้วนแต่ที่จะชูให้เมนูนี้มีความเอร็ดอร่อยและมีความเลิศรส แม้แต่เครื่องเคียงที่เป็นผักต้มเองก็จะทำให้เมนูอาหารนี้มีสีสันที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

ในการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อเที่ยง หรือมื้อเย็น หากในมื้อหนึ่งๆนั้น คุณมีเมนูอาหารที่มีความอร่อยและมีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับเมนูอาหารใดๆแล้ว เราก็ต้องบอกเลยว่าการรับประทานอาหารในมื้อนั้นๆจะต้องมีความอร่อยอย่างแน่นอน อย่าง การทานข้าวกับ น้ำพริก ก็ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารเมนูหนึ่งที่คนไทยนิยมทานและเป็นเมนูที่มักจะพบเจอบ่อยในมื้ออาหารของแต่ละครอบครัว ซึ่ง น้ำพริก ในที่นี้เราจะกล่าวถึงน้ำพริก3 อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกากหมู น้ำพริกปลาทูคั่ว หรือว่าจะเป็นน้ำพริกแจ่วปลาร้า เริ่มจากน้ำพริกกากหมู เป็นน้ำพริกที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำพริกที่มีความโดดเด่นในวัตถุดิบที่เป็นในส่วนของ   กากหมู ซึ่งถ้าหากคุณทำอาหารด้วยตนเองแล้ว คุณก็ทราบดีว่าคุณจะต้องใช้มันหมูนั้นในการหั่นเป็นเส้นๆเพื่อที่จะทำกากหมู แต่ความอร่อยไม่ได้มีอยู่เพียงแค่กากหมูที่นำมาทอดใส่ในน้ำพริกเท่านั้น แต่ยังมีการเจียวมันหมูให้มีความกรอบ เมื่อกรอบแล้วก็ใส่หอมแดงเจียวก็ยิ่งทำให้น้ำพริกกากหมูนั้นมีแต่ความอร่อย น้ำพริก ก็ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารเมนูหนึ่งที่คนไทยนิยมทาน หรือว่าจะเป็นน้ำพริกปลาทูคั่วที่มีส่วนผสมหลัก ก็คือ ปลาทู โดยการนำปลาทูนั้นไปย่างจนหอมแล้วนำไปคั่วอีกครั้งหนึ่งก็ยิ่งทำให้น้ำพริกปลาทูคั่วนั้นเป็นเมนูอาหารที่มีแต่ความหอมและความอร่อย ยิ่งทานกับข้าวก็ยิ่งอร่อย สุดท้ายน้ำพริกแจ่วปลาร้า เป็นน้ำพริกที่เรียกได้ว่ามีความแตกต่าง แต่มีความลงตัวในการรับประทานกับข้าวเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยการใช้เนื้อปลาร้าเป็นหลักในการทำน้ำพริกและด้วยวัตถุดิบอื่นๆที่ทำให้เนื้อปลาร้าสับนั้นไม่มีกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นหอมแดง กระเทียม ก็ยิ่งทำให้เมนูอาหารนี้ เมื่อทานกับข้าวแล้วก็ยิ่งหอมและมีความอร่อย จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกแจ่วปลาร้าน้ำพริกปลาทูคั่ว หรือว่าจะเป็นน้ำพริกกากหมูก็ตาม เป็นน้ำพริกที่เรียกได้ว่ายิ่งทานก็ยิ่งอร่อย และเมื่อยิ่งได้ทานกับข้าวร้อนๆแล้วก็ยิ่งมีความอร่อยขึ้นไปอีก จนคุณไม่สามารถที่จะหยุดทานได้เลย

เมนูอาหารที่เรียกว่า ต้มส้มนั้น ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่า ต้มส้ม  มีการใส่ผักที่มีความเปรี้ยว อย่างเช่น ใบมะขามแขก ซึ่งใบมะขามแขกนั้นก็จะมีรสชาติที่ทำให้เมนูต้มส้มมีความเปรี้ยวหรืออาจจะใส่ผักชนิดอื่นๆก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งก็สามารถที่จะทำให้เป็นต้มส้มได้เช่นเดียวกัน แต่ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่มีความแปลกแตกต่างจากต้มส้มอื่นๆ นั่นก็คือ ต้มส้มเห็ด ซึ่งบอกได้เลยว่าต้มส้มเห็ดนั้น จะทำให้ผู้รับประทานมีความหอมตัวเห็ดที่ใส่เข้าไปในเมนู ต้มส้มเห็ด เป็นต้มส้มชนิดหนึ่งที่มีการใส่เห็ดหลายๆพันธุ์เห็ดด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็น เห็ดฟาง เห็ดหูหนู และนอกจากเห็ดที่ใส่ในต้มส้มนี้แล้ว ก็ยังมีเครื่องปรุงอื่นๆอีกด้วยที่จะทำให้เมนูต้มส้มเห็ดนั้นมีความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำสต๊อกเห็ดที่มีการเตรียมไว้อย่างเพียงพอหรือว่าจะเป็นตะไคร้ที่มีการหั่นเป็นท่อนๆ หรือว่าจะเป็นข่าที่มีการหั่นเป็นแว่นๆไว้ นอกจากนี้ก็ยังมีขมิ้นสด และดอกกะหล่ำที่สามารถจะใส่เข้าไปในเมนูต้มส้มเห็ดได้อีกด้วย ที่กล่าวมานั้นไม่ใช่เพียงแค่วัตถุดิบเล็กๆน้อยๆที่มีการใส่เข้าไปในเมนูต้มส้มเห็ดแต่ยังมีซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย หรือแม้แต่กะปิก็สามารถที่จะใส่ได้ เพื่อให้ต้มส้มนั้นมีความกลมกล่อม จะเห็นได้ว่า เมนูต้มส้มเห็ดเป็นเมนูอาหารที่มีความกลมกล่อมอย่างลงตัว เนื่องด้วยเครื่องปรุงที่มีการปรุงเข้าไปในเมนูต้มส้มนั่นเอง นอกจากวัตถุดิบที่เป็นเห็ดและเครื่องปรุงต่างๆที่ใส่เข้าไปแล้ว ก็ยังสามารถที่จะใส่ใบมะกรูดและพริกเพื่อทำให้เมนูต้มส้มนั้นมีความหอมขึ้นไปอีกได้

ในการรับประทานอาหารไม่ว่าจะเป็นเมนูใดๆก็ตาม เราจะสังเกตได้ว่า อาหารปักษ์ใต้ มักจะเป็นอาหารที่มีรสชาติแตกต่างจากอาหารของภาคอื่นๆที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเอกลักษณ์ของอาหารที่มีความไม่เหมือนใครด้วยเครื่องแกงและการผสมผสานกับวัตถุดิบจึงทำให้อาหารใต้มีความแตกต่างจากอาหารภาคอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งความแตกต่างนั้นจะมีอะไรบ้างในที่นี้เราจะมากล่าวถึงกัน ดังนี้ ความแตกต่างในเรื่องแรกที่จะเห็นได้อย่างเด่นชัด ก็คือ สีของอาหาร เหตุเพราะ อาหารปักษ์ใต้ สีจะมีความสดด้วยสี ไม่ว่าจะเป็นสีส้มหรือสีแดง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสีเครื่องแกงนั่นเองที่ทำให้เมนูนั้นๆมีสีที่แสดงถึงรสชาติเผ็ดร้อนได้อย่างชัด ซึ่งเมนูที่มีสีดังกล่าวนั้น อย่างเช่น แกงเหลืองหรือแกงส้ม หรือจะเป็นผัดเผ็ดต่างๆก็จะมีสีที่แสดงถึงเอกลักษณ์ดังที่กล่าวไว้แล้ว อาหารปักษ์ใต้ กับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนความแตกต่างในเรื่องที่สองที่จะเห็นได้ชัด ก็ต่อเมื่อผู้รับประทานจะต้องชิมอาหารเท่านั้น จึงจะทราบ โดยรสชาติของอาหารปักษ์ใต้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยรสชาติที่เผ็ดและกลมกล่อมด้วยความเค็ม ความมัน อย่างลงตัวมากๆเลย นอกจากนี้ความแตกต่างที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนที่ไม่ต่างจากเรื่องของสีหรือว่ารสชาติที่กล่าวข้างต้น ก็คือ การที่ผู้รับประทานจะพบว่ายังคงมีความหลงเหลือของเครื่องแกงให้ผู้รับประทานยังคงได้เห็นอยู่ ซึ่งการทำอาหารแบบนี้ถือเป็นการทำอาหารที่แตกต่างจากภาคอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด และคุณสามารถที่จะเห็นได้จาก ผัดกะปิ สะตอ หรือว่าจะเป็นเมนูผัดเผ็ด คุณก็จะเห็นเครื่องแกงที่มีความผสมผสานอย่างน่ารับประทาน ฉะนั้น หากคุณต้องการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้มีความอร่อย เราขอเลือกให้คุณรับประทานอาหารปักษ์ใต้เลย เพราะเมนูอาหารภาคใต้นี้จะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และขอรับรองเลยว่าการรับประทานอาหารของคุณในมื้อนั้นๆก็จะมีความอร่อยอย่างแน่นอน