ขนมตาล เป็นขนมไทยโบราณที่ถือว่าไม่ได้หาทานยากนักในปัจจุบัน
ขนมตาล เป็นขนมไทยโบราณที่ถือว่าไม่ได้หาทานยากนักในปัจจุบัน แต่เจ้าที่ทำขนมชนิดนี้ได้อร่อยเริ่มหาได้ยากมากขึ้นทุกที เนื่องจากความต้องการลดต้นทุนของผู้ผลิต ทำให้เปลี่ยนสัดส่วนของวัตถุดิบหลายอย่างในขนม เนื้อสัมผัสที่เคยนุ่มละมุนและมีความหอมเป็นเอกลักษณ์จึงหายไป กลายเป็นขนมที่ให้ความรู้สึกเหมือนขนมประเภทแป้งธรรมดา อย่างเดียวที่ยังคงเด่นชัดเหมือนของดั้งเดิมอยู่ ดูท่าจะมีแค่สีเหลืองนวลของขนมเท่านั้นเอง ขนมตาล ที่อร่อยจะใช้เนื้อในของลูกตาล ถ้าว่ากันตามตำรับ ขนมไทย โบราณในการทำ ขนมตาล นั้น เขาจะเลือกลูกตาลที่แก่จัดแล้วขูดเอาเนื้อด้านในที่เป็นสีเหลืองออกมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมขนมชนิดนี้ถึงมีสีเหลืองนวล ไม่ได้เป็นการเติมสีในภายหลัง แต่เป็นสีธรรมชาติของวัตถุดิบ นอกจากสีแล้วก็มีความหอมด้วย ส่วนแป้งที่ใส่จะทำหน้าที่ช่วยในการเซตตัวเท่านั้น จึงใส่ด้วยปริมาณน้อยมาก เวลาทานจะไม่ได้รสสัมผัสของแป้งเลย เมนูอาหาร ขนมตาลที่อร่อยต้องมีไข่และหัวกะทิ ขนมตาลที่วางขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ มักมีการปรับปรุงสูตรโดยงดใส่ไข่ไก่และเลือกใช้กะทิกล่องเพื่อความสะดวก ทำให้มิติของรสชาติขนมหายไปพอสมควร ตามสูตรดั้งเดิมจะใส่ไข่ไก่เพื่อช่วยให้เนื้อขนมเนียนนุ่ม หลังนึ่งเนื้อจะไม่แตกร่วน ไม่สากคอ ส่วนกะทิจำเป็นจะต้องคั้นจากมะพร้าวสด แล้วใช้เฉพาะส่วนหัวกะทิเท่านั้น มันถึงจะได้ทั้งความหอมและความเข้มข้นที่กำลังพอดี ขนมตาลต้องเพิ่มความน่าสนใจด้วยมะพร้าว มะพร้าวที่เราจะใช้ต้องเป็นมะพร้าวที่แก่สักหน่อย ไม่ใช้มะพร้าวอ่อนที่มีเนื้อนุ่มนิ่มเด็ดขาด เพราะจะนำมาโรยหน้าขนมตาลในตอนท้าย เนื้อสัมผัสจึงควรกรุบๆ และหอมมัน อย่าขูดมะพร้าวให้สั้นหรือยาวเกินไป และที่สำคัญคือห้ามหวงวัตถุดิบ ประเภทที่แปะหน้าขนมด้วยมะพร้าว 2-3 เส้นนั่นก็ไม่เข้าท่าเหมือนกัน ปริมาณมะพร้าวที่พอดีกับขนมจะช่วยตัดเลี่ยนและเสริมรสให้โดดเด่น ทานเท่าไรก็ไม่มีเบื่อ Related Posts