เคล็ดลับการทำอาหาร

หมูสามชั้น ชิ้นส่วนของเนื้อหมูที่มีทั้งส่วนของเนื้อแดงและส่วนของเนื้อมันวางสลับเรียงรายเป็นลายเฉพาะของเนื้อหมูสามชั้น ซึ่งก็เป็นชิ้นส่วนของหมูที่เป็นส่วนโปรดของใครหลายๆ คน มาวันนี้เราจึงขอนำเสนอกรรมวิธีการเปลี่ยนเนื้อหมูสามชั้นมาเป็นเมนูอาหารเด็ดของหลายๆ ท่าน โดยเรานำเนื้อหมูสามชั้นมาประกอบเป็นเมนู สามชั้นคั่วพริกเกลือ กัน วัตถุดิบสำหรับเมนูสามชั้นคั่วพริกเกลือ 1.เนื้อหมูสามชั้น ปริมาณ 500 กรัม หรือ 5 ขีด 2.รากผักชี ปริมาณ 5 ราก 3.กระเทียม ปริมาณ 3 – 5 กลีบ 4.พริกขี้หนู ปริมาณ 8 – 10 เม็ด 5.ผักชี ปริมาณ 2 ต้น 6.เกลือป่น ปริมาณ ½ ช้อนชา 7.ต้นหอม ปริมาณ 2 ต้น อุปกรณ์สำหรับเมนู สามชั้นคั่วพริกเกลือ 1.มีด 2.เขียง 3.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ 4.ตะหลิว 5.กระทะ กรรมวิธีการทำเมนูสามชั้นคั่วพริกเกลือ 1.นำเนื้อหมูสามชั้น ปริมาณ …

ไข่ตุ๋น เมนูอาหารที่ทุกคนเข้าใจกันเป็นอย่างดีแล้ว เป็นที่ชื่นชอบของแต่ละคนได้มากที่สุด ไปที่ร้านก็สามารถสั่งกินได้เลย ไม่ยุ่งยากเลยสักนิดเดียว เป็นเมนูจานโปรดได้เลยนั่นเอง ทำให้ทุกคนหรือหลายๆคนก็ต้องหัดทำกันอย่างแพร่หลายกับรสชาติที่แสนจะคงที่มากที่สุด ไข่ตุ๋น อาหารสุขภาพทำกินเองได้ไม่ว่าที่ไหนก็ทำได้ เป็นอาหารที่สุขภาพซึ่งรสชาติไม่จัด แล้วแถมไม่ยุ่งยากจนเกินไป ไม่มีสารพิษลงในร่างกายมากจนเกินไป อีกทั้งทำกินเองได้ตามความสะดวกและตามใจชอบได้เลย เป้นการดูแลสุขภาพไปในตัวสำหรับอาหารที่ได้กินไปแต่ละมื้อนั่นเอง ไข่ตุ๋นอาหารพื้นฐานแต่รสชาติดีเยี่ยม เมนูพื้นฐานที่ทุกคนต้องพอใจกันเลย รสชาติที่กินกับข้าวสวยร้อนๆได้เลย เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่แสนจะลงตัวเป็นอย่างมาก รสชาติปรุงให้พอดีมันก็จะทำให้เรากินได้แบบสบายใจ กินลื่นคอเพราะว่ามันจะมีน้ำอยู่ในไข่ด้วย พร้อมกับข้าวร้อนๆลงตัวที่สุดนั่นเอง ในตอนที่ว่างๆก็สามารถทำกินเล่นๆได้เลย ปรุงให้รสชาติอ่อนกว่าตอนกินกับข้าวก็จะลงตัวเป็นอย่างมาก อาหารเมนู ไข่ตุ๋น นี้วัยไหนสามารถกินได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็สามารถกินได้ เด็กเล็ก เด็กอ่อน หรือจะเป็นคนโตก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน เพราะอย่างที่เข้าใจมันมีส่วนผสมแค่ไข่เท่านั้น หรือถ้าหากว่าใครสะดวกอย่างใส่หมูสับ หรือจะผักตามใจชอบได้เลย ทำให้หลายๆคนก็สามารถที่จะกินได้เลยทีเดียวค่ะ พร้อมโรยด้วยผักชีหอมๆ โรยด้วยกระเทียมเจียวกับใส่พริกไทยก็ได้ค่ะ สรุปได้ว่าเป็นอาหารที่กินได้ง่าย แถมมีไข่ลูกเดียวก็สามารถทำกินกันได้ทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหนก็สามารถทำกินได้ เป็นการดูสุขภาพไปในตัวอีกด้วย อาหารที่ทำได้ง่ายขนาดนี้ที่ทุกบ้านสามารถทำกินกันได้ทุกบ้านกับวัตถุดิบที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไปได้เลย

หมึกผัดฉ่า เมนูอาหารธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเริ่มจากการคัดเลือกหมึกที่เราใช้หมึกกล้วย หมึกที่มีลักษณะยาว เนื้อแน่นกรุบเฉพาะสายพันธุ์ ต่อด้วยเครื่องสมุนไพรนานาพรรณที่ล้วนมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์พร้อมคุณค่านานาทั้งช่วยเรื่องเลือดลม ความดัน เป็นต้น มาผสมรวมและปรุงเป็นเมนูเลิศรสอย่าง หมึกผัดฉ่า เราไปพบกับกรรมวิธีการทำเมนูเด็ดเมนูดังนี้พร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบสำหรับเมนูหมึกผัดฉ่า 1.หมึกกล้วย ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด 2.กระเทียม ปริมาณ 10 – 15 กลีบ 3.พริกขี้หนู ปริมาณ 10 – 15 เม็ด 4.กระชาย ปริมาณ 50 กรัม 5.ใบมะกรูด ปริมาณ 10 – 15 ใบ 6.พริกชี้ฟ้าสีเหลือง ปริมาณ 3 – 5 เม็ด 7.ใบโหระพา ปริมาณ 1 กำมือ 8.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ …

วิธีต้มมันฝรั่ง วัตถุดิบสารพัดประโยชน์ที่นำไปปรุงอะไรก็อร่อย อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการ ให้พลังงาน เป็นผักยอดนิยมที่รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนั้น มันฝรั่งยังนับเป็นเมนูอาหารหลัก ช่วยให้อยู่ท้องเช่นเดียวกับกับข้าว ข้าวโพด และพืชแป้งอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งบด สลัดมันฝรั่ง หรือเมนูใดก็ตาม สิ่งแรกอันเป็นพื้นฐานคือ คุณควรเรียนรู้ที่จะ วิธีต้มมันฝรั่ง ให้ดี เพื่อให้ได้มาซึ่งมันฝรั่งเนื้อนวลสวย เนียนละเอียด พร้อมสำหรับการนำไปปรุงอาหารขั้นถัดไป อีกสิ่งที่ควรรู้คือคุณสามารถรับประทานมันฝรั่งได้ทั้งสองแบบ คือทั้งเปลือก และปอกเปลือก ขึ้นอยู่กับความชอบโดยไม่มีคำว่าผิด ส่วนผสมในการต้มมันฝรั่ง มันฝรั่ง 1 กิโลกรัม เกลือปรุงอาหาร (เกลือทะเลหรือเกลือสินเธาว์) 1 ช้อนโต๊ะ วิธีต้มมันฝรั่ง ล้างหัวมันฝรั่งให้สะอาด ใช้ฟองน้ำขัดไม่ให้เหลือคราบดิน ปอกเปลือก (ขั้นตอนนี้จะปอกหรือไม่ปอกก็ได้ตามชอบ) หั่นเป็นชิ้น ¼ หัว หรือใช้ทั้งหัวตามชอบ ใส่มันฝรั่งลงในหม้อขนาดใหญ่ที่มีน้ำเย็น (ที่อุณหภูมิห้อง) ท่วมมันฝรั่ง ใส่เกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต้มมันฝรั่งไปต้มด้วยไฟแรง จนกระทั่งน้ำเดือด ลดไฟลงเหลือระดับปานกลาง แล้วปิดฝา โดยใช้เวลาดังนี้ มันฝรั่งก้อนและเล็กมาก 12-15 …

บะหมี่เหลือง เป็นเมนูอาหารประเภทเส้นที่จัดว่าลวกยาก หากจะลวกให้อร่อยก็ต้องใช้เทคนิคในการลวกแบบร้านก๋วยเตี๋ยว ที่บอกเลยว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ เพื่อให้เส้น บะหมี่เหลือง นุ่ม ไม่เป็นไต ไม่เละ ไม่เมือก และหอมหวล ซึ่งนี่แหละถือเป็นสุดยอดของเส้นบะหมี่เหลืองที่ทุกคนอยากลิ้มชิมรส และเทคนิคลวกบะหมี่เหลืองให้น่ากินก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้ว เลือกบะหมี่ที่มีคุณภาพ บะหมี่เหลืองที่ดีควรมีลักษณะเหล่านี้ -จะเส้นแบน เส้นกลมบะหมี่เหลืองที่ดีก็ควรมีสีเหลืองตามธรรมชาติ ถ้าสีฉูดฉาดแทนที่จะดูน่ากินก็จะกลายเป็นน่ากลัวไป แต่สำหรับบะหมี่หยกให้เลือกสีเขียวอ่อนดูละมุนๆ -ดมแล้วได้กลิ่นหอมของไข่ และเป็นกลิ่นที่สดใหม่ -แม้จะมีกลิ่นด่างบ้างก็ถือว่าปกติ แต่ถ้ากลิ่นด่างฉุนจนแสบจมูกแบบนี้ไม่ผ่านแน่ -ถ้าลองสัมผัสได้ให้ลองจับดูว่าเส้นไม่เละ ยังคงสดใหม่ กำจัดแป้งส่วนเกินออกไป                ก่อนอื่นให้คุณกำจัดแป้งที่ติดอยู่บนเส้นบะหมี่เหลืองก่อน เพื่อลดกลิ่นด่างของบะหมี่ และป้องกันน้ำต้มเป็นเมือก โดยให้คุณกระจายเส้นให้ออกจากกันแล้วยกเส้นขึ้นลงเพื่อให้แป้งตกลงมา แต่สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวบางร้านนิยมกำจัดแป้งส่วนเกินนี้ด้วยการนำไปล้างกับน้ำเปล่าแล้วสะเด็ดน้ำ ซึ่งแบบนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน      ลวกในน้ำเดือดพล่าน                เมื่อได้บะหมี่เหลืองที่มีแป้งเกาะน้อยลงแล้ว ให้คุณนำบะหมี่มาลวกในน้ำเดือดพล่าน เพื่อให้เส้นไม่เละ และขณะที่นำเส้นใส่ให้คุณพยายามกระจายเส้น เพื่อให้เส้นไม่กระจุกตัว จะได้สุกเสมอกันดี ส่วนเวลาที่ลวกก็ประมาณ 1 นาทีหรือมากน้อยกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับเส้นแต่ละยี่ห้อ ซึ่งคุณต้องอาศัยการสังเกตหรือชิมดูด้วย แต่ที่แน่ๆ คือถ้าเส้นสุกก็จะดูใสขึ้นและไม่เป็นไต และอีกเคล็ดลับที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ถ้าใส่น้ำส้มสายชูลงไปในน้ำลวกสักเล็กน้อยก็จะช่วยให้เส้นบะหมี่เหลืองเงางามวิบวับน่ากินมาก   แช่น้ำเย็นด้วย                เมื่อเส้นสุกดีแล้วให้คุณนำขึ้นมาแช่น้ำเย็นเพื่อให้อุณหภูมิเส้นลดลงทันที ไม่มีการสุกต่อเมื่อนำขึ้นมา …

เมนู กุ้งอบวุ้นเส้น เมนูโปรดของเพื่อนๆ หลายๆ คน ด้วยรสชาติการปรุงรสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ แถมด้วยวุ้นเส้นหนานุ่มที่สามารถรับประทานเป็นเมนูอาหารจานหลักกันได้เลย โดยวันนี้นอกจากกุ้งแล้วเรายังมีการเพิ่มในส่วนของเบคอนเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มรสมชาติสัมผัสให้อร่อยลงตัวยิ่งขึ้น เราไปดูกกรมวิธีการทำ กุ้งอบวุ้นเส้น พร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบสำหรับเมนูกุ้งอบวุ้นเส้น 1. กุ้งปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด 2. เบคอนหมู ปริมาณ 200 กรัม หรือ 2 ขีด 3. วุ้นเส้น ปริมาณ 2 ห่อ 4. กระเทียม ปริมาณ 8 – 10 กลีบ 5. ขิง ปริมาณ 6 ช้อนโต๊ะ 6.พริกไทยเม็ด ปริมาณ 2 ช้อนชา 7. ซีอิ้วขาว ปริมาณ 4 ช้อนโต๊ะ 8. …

เครื่องในสัตว์ เป็นเมนูอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากนำมาปรุงรสให้ถูกวิธีจะยิ่งเพิ่มความอร่อยและทำให้น่ากินมากขึ้นไปอีก แต่ข้อจำกัดของการนำเครื่องในสัตว์มาปรุงเป็นอาหารนั้น คือ เครื่องในเหล่านี้มักมีกลิ่นคาวอย่างมาก ดังนั้น เมื่อต้องการจะนำมาทำเป็นอาหาร จึงควรล้างให้สะอาด เพื่อให้หมดกลิ่นคาวเสียก่อน สำหรับเครื่องในอย่าง ไส้อ่อน สามารถนำมาทำได้สารพัดเมนูสุดอร่อย ไม่ว่าจะเป็นไส้อ่อนทอดกระเทียม ยำ ไส้อ่อน หรือต้มแซ่บไส้อ่อนโดยมีเคล็ดลับในการล้างไส้อ่อนให้ไม่มีกลิ่นเหม็นคาวได้ง่ายๆ คุณสามารถนำไปทำได้เอง อีกทั้งยังมีทริคในการเลือกซื้อไส้อ่อนไม่ให้ขม ดังนี้                1. ก่อนอื่น ตัดผังพืดสีขาวที่เกาะติดอยู่กับไส้หมูออกไปให้ได้มากที่สุด                2. หยอดน้ำเข้าไปในไส้หมู โดยหยอดจากปลายข้างหนึ่งแล้วค่อยๆ รูดสิ่งสกปรกที่อยู่ในไส้ออก รูดไปเรื่อยๆ จนสุดปลายอีกข้างหนึ่ง โดยทำซ้ำวนไปอย่างน้อย 2-3 รอบ                3. กลับไส้ด้านในออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดซ้ำอีก 2-3 ครั้ง เหมือนเช่นที่ทำในตอนแรก รูดสิ่งสกปรกออก                4. เตรียมภาชนะใส่น้ำและเกลือผสมกันในอัตราส่วน 3 : 1 แล้วนำไส้อ่อนมาซาวน้ำจนหมดเมือก ถ่ายน้ำซ้ำอีก 2-3 รอบ จนรู้สึกว่าหมดกลิ่นคาว หากยังไม่ดีขึ้นแนะนำให้แช่ทิ้งไว้ซักพักก่อนประมาณ …

สำหรับวันนี้เราขอนำเสอนเมนูอาหาร ผัดหมี่ไทเปกระเพรา สำหรับไทเปนั้นก็เป็นชื่อชนิดของบะหมี่ซึ่งจะมีความเหนียวนุ่มกว่าหมี่โดยทั่วไป สามารถหาซื้อได้ตามห้างสสรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ผสานกับกลิ่นกลมกล่อมจากเครื่องเทศของไทยอย่างกระเพรา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกรรมวิธีการทำเมนู ผัดหมี่ไทเปกระเพรา พร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบการทำเมนูผัดหมี่ไทเปกระเพรา 1.หมูตุ๋น ปริมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด 2.กระเทียม ปริมาณ 3 -5 กลีบ 3.พริกแห้ง ปริมาณ 3 -5 เม็ด 4.ใบกระเพรา ปริมาณ 1 กำมือ 5.น้ำมันพืช ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 6.ซีอิ้ว ปริมาณ 1/2 ช้อนชา 7.หมี่ไทเป ปริมาณ 1 ห่อ 8.ผักกาดดอง ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ อุปกรณ์การทำเมนูผัดหมี่ไทเปกระเพรา 1.กระทะแบบมีฝาปิด 2.ตะหลิว 3.มีด 4.เขียง 5.จานสำหรับวางพักวัตถุดิบ กรรมวิธีการทำเมนูผัดหมี่ไทเปกระเพรา …

สำหรับวันนี้เราขอนำเสนอเมนูอาหารที่ชื่อว่า ข้าวผัดกุนเชียง เมนูอร่อยขวัญใจน้องๆ หนูๆ ด้วยรสชาติหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ของกุนเชียง นอกจากนี้เรายังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยแครอทและไข่กันอีกด้วย เราไปดูกรรมวิธีการทำเมนู ข้าวผัดกุนเชียง พร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบสำหรับเมนูข้าวผัดกุนเชียง 1.ข้าวสวย ปริมาณ 1 ถ้วย 2.กุนเชียง ปริมาณ 1 แท่ง 3.ไข่ไก่ ปริมาณ 1 ฟอง 4.น้ำมันพืช ปริมาณ 1 ช้อนชา 5.แครอทหั่นเต๋า ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 6.ต้นหอม ปริมาณ 1 – 2 ต้น 7.แตงกวา 8.มะนาว ปริมาณครึ่งซีก 9.กระเทียม ปริมาณ 1 – 2 กลีบ 10.ซีอิ้วขาว ปริมาณ 1 ช้อนชา 11.น้ำมันหอย ปริมาณ 2 ช้อนชา 12.น้ำตาลทราย …

ถ้าให้นึกถึงอาหารใต้ที่คุ้นเคยในระยะเวลาอันสั้น เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะตอบโดยพร้อมเพรียงกันว่า คั่วกลิ้งหมู เพราะเป็นเมนูที่มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเมนูอาหารใต้อย่างแน่นอน ไม่เหมือนกับแกงประเภทอื่นที่มันชวนให้ลังเลอยู่บ้าง ด้วยว่ามีเมนูใต้บางอย่างที่คล้ายกับอาหารของภาคตะวันออกนั่นเอง แล้วเราก็พบเจอคั่วกลิ้งได้บ่อยไปในร้านอาหารปักษ์ใต้ แบบว่าเข้าร้านไหนก็ต้องมี ราวกับว่าเป็นเมนูพื้นฐานที่แสดงตัวว่าที่นี่ขายอาหารใต้จริงๆ                หากเปรียบเทียบ คั่วกลิ้งหมู ก็จะเหมือนกับลาบคั่วของภาคอีสาน ที่เอาเนื้อสัตว์มาคั่วกับเครื่องแกงหลากหลายชนิด เน้นให้มีความหอมและมีรสจัดจ้าน ทานคู่กับผักสดนับว่าเข้ากันดี นั่นหมายความว่าคั่วกลิ้งไม่ได้มีแค่หมูเท่านั้น จะใช้ไก่ก็ได้ ใช้อาหารทะเลก็ได้ด้วย เพียงแค่ไม่ค่อยนิยมกันเท่าไร ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครลองทำ แต่เนื้อหมูให้รสสัมผัสที่ดีที่สุดเท่านั้น                ส่วนประกอบสำหรับการทำเมนูคั่วกลิ้งหมูก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่มีกะปิ พริกสด พริกไทย ใบมะกรูด และเครื่องปรุงต่างๆ อย่างพวกน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เป็นต้น จุดสำคัญจึงอยู่ที่การเลือกพระเอกของจาน เนื้อหมูที่ใช้ต้องไม่ติดมัน และควรสับให้ละเอียดอย่าให้ติดกันเป็นแพยาว จะใช้สะโพกผสมกับสันในก็ได้ หรือกจะใช้สันในผสมสันนอกก็ดี วิธีทำก็แค่เอาเครื่องแกงลงไปผัดพอสุก จากนั้นก็เทหมูตามลงไป รวนให้เข้ากันดี โดยสังเกตจากสีของเนื้อหมูว่าเหลืองนวลทั่วดีหรือยัง                สิ่งที่ทำให้คั่วกลิ้งหมูแต่ละที่แตกต่างกัน ก็คือความใส่ใจระหว่างการปรุงนี่เอง เนื่องจากส่วนประกอบที่ต้องใช้ก็ไม่ได้ยุ่งยากและการเลือกสรรวัตถุดิบแต่ละที่ ถึงจะต่างกันก็ไม่ได้มีผลมากมายขนาดนั้น มันจึงอยู่ที่การใช้ไฟ วิธีการคั่วหมูให้สุกพอดี ไม่มากเกินไปจนทำให้เนื้อเหนียวหรือแข็ง