หลายคนคิดว่า น้ำพริกลงเรือ ทำยาก จริงๆ แล้วมีหลักการคล้ายการทำน้ำพริกกะปินั่นเองครับ เพียงแต่มีเครื่องเคราเยอะกว่าเท่านั้น วันนี้เรามาลองทำกินกันดู ว่าสูตรน้ำพริกอร่อยนี้จะแซ่บขนาดไหนครับ! ติดตามต่อในบทความเมนูอาหาร
สูตรน้ำพริกลงเรือ ความอร่อยที่ไม่ธรรมดา
ประวัติความเป็นมา
เป็นน้ำพริกอร่อยในตำรับอาหารชาววังอีกชนิดที่หากินยาก มีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานกลมกล่อมไม่โดด ซึ่งคิดค้นโดยเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชกาลที่ 5 ครับ
ใครทำขายก็มักขายได้ราคาดี ซึ่งหากใครได้กินก็จะติดใจเพราะรสชาติหอมอร่อย อุดมไปด้วยของดีๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปลาดุก ไข่เค็ม หรือหมูหวาน ส่วนผสม น้ำพริกลงเรือ สูตรโบราณอาจมากชนิดไปหน่อยแต่วิธีการทำไม่ยากเย็นอย่างที่คิดครับ
ส่วนผสม
– หมูหวาน 1 ขีด (หมูสามชั้นที่ต้มจนเปื่อย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอคำ แล้วผัดกับน้ำตาลและน้ำปลาให้มีรสออกเค็มๆ หวานๆ เล็กน้อย)
– ไข่เค็ม ใช้เฉพาะไข่แดงอย่างเดียว ผ่าเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ฟอง
– ปลาดุกฟู 1/2 ตัว (ปลาดุกนึ่งแกะเอาเฉพาะเนื้อมายี แล้วนำไปทอด 1 รอบพอให้สุกระดับหนึ่ง ทอดอีกรอบให้ฟูกรอบแบบปลาดุกฟู ซึ่งน้ำพริกอร่อยสูตรนี้จะขาดปลาดุกไปไม่ได้เลย)
– กะปิอย่างดีปิ้งไฟให้หอม 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกขี้หนูนำไปคั่ว 20 เมล็ด
– น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
– กระเทียมไทยปอกเปลือกแล้วนำไปคั่ว 1 หัว
– กระเทียมดองซอยบางๆ 1/2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาวคั้น 2 – 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันพืช 2 – 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำอร่อย
– สูตรน้ำพริกนี้เริ่มด้วยการนำกะปิ พริกขี้หนู และกระเทียม มาตำรวมกันให้ละเอียดก่อน
– ปรุงรสให้อร่อยด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว
– ชิมรสชาติดู หากชอบก็ให้นำส่วนผสมนี้มาใส่กระทะที่มีน้ำมันพืช แล้วผัดด้วยไฟอ่อนๆ จนส่งกลิ่นหอม
– ตักน้ำพริกใส่ถ้วยสวยๆ แล้วตกแต่งด้วยกระเทียมดอง ปลาดุกฟู หมูหวาน และไข่เค็มครับ
เคล็ดลับความอร่อยของ น้ำพริกลงเรือ
– การนำพริกและกระเทียมไปคั่วก่อนจะช่วยลดความเหม็นเขียวลงได้
– ควรเลือกหมูสามชั้นที่มีชั้นไขมันไม่หนาเกินไป กินแล้วจะได้ไม่เลี่ยน
– น้ำพริกลงเรือสูตรโบราณนี้เหมาะจะกินกับผักสดอย่างมาก ได้แก่ แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพู ผักกาดขาว และผักชี หรือใครจะกินกับผักต้มผักลวกก็ไม่ผิดกติกาครับ
– หากน้ำพริกเหลือสามารถนำไปผัดเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือได้อร่อย ไม่มีเสียของด้วย