You Are Looking For

ควินัวเป็นเมนูที่หลายคนนำมารับประทานเพื่อที่จะควบคุมน้ำหนัก เมื่อสุกแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับข้าวสวยที่เรารับประทานเป็นประจำทุกวัน แต่จะให้สารอาหารที่สูงกว่าเสียอีก โดยปกติแล้วรสชาติของควินัวจะมีรสชาติขม ก่อนทำจะต้องนำไปล้างในน้ำสะอาดเพื่อที่จะลดความขมของควินัวให้ได้ หลังจากนั้นก็นำไปหุงใส่หม้อธรรมดา แล้วคอยมาคนเป็นระยะกว่าจะได้ควินัวแสนอร่อยรับประทาน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูหนึ่งเมนูที่ทำจากควินัว เป็น เมนูควินัวผัดน้ำพริกกากหมูและอกไก่ จะเป็นเมนูที่น่ารับประทานเพียงใดและทำได้ง่ายขนาดไหนไปดูกันเลย ส่วนผสมและขั้นตอนการทํา เมนูควินัวผัดน้ำพริกกากหมูและอกไก่ ทำง่ายมีประโยชน์ หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบการทำอาหาร และเป็นเมนูอาหาร เพื่อสุขภาพ เมนูควินัวผัดน้ำพริกกากหมูและอกไก่ จะทำให้คุณชื่นชอบและติดใจ เป็น เมนูอาหาร ที่ทำได้ง่ายๆ และมีส่วนผสมที่หาได้ไม่ยาก จะมีขั้นตอนและวิธีการทำอย่างไรไปดูกันเลย ส่วนผสมการทำเมนูควินัวผัดน้ำพริกกากหมูและอกไก่ น้ำพริกกากหมูสำเร็จรูป อกไก่ ควินัว พริกไทย เกลือ น้ำมันพืช ซีอิ๊วขาว  ขั้นตอนและวิธีการทำเมนูควินัวผัดน้ำพริกกากหมูและอกไก่ ขั้นตอนแรกนำเอาอกไก่ เกลือ พริกไทย ไปหมักให้เข้ากันจากนั้นพักไว้ 15 นาที เมื่อครบแล้วนำไปย่างให้สุกเหลืองกำลังดี หลังจากนั้นนำขึ้นมาพัก 5-10 นาทีเพื่อรอให้เย็น ก่อนที่จะหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำพักใส่ภาชนะไว้ ขั้นตอนของการหุงควินัวให้สุก ด้วยการนำเอาควินัวมาล้างทำความสะอาดให้ดี หลังจากนั้นนำใส่หม้อหุง เมื่อสุกได้ที่แล้วนำมาผึ่งลมให้แห้ง  ขั้นตอนของการทำเมนูอาหาร นำควินัวที่หุงสุกแล้วมาผัดลงกระทะให้แห้ง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย เพื่อให้รสชาติที่กลมกล่อม นำน้ำพริกกากหมูมาผัดให้เข้ากัน โดยการใช้ไฟพอประมาณใช้ไฟระดับกลางๆ …

อาหารไทยเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติความเผ็ดจัดจ้าน มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติเมื่อได้ลองรับประทานแล้วต่างก็ชื่นชอบในรสชาติ และรสมือในความเป็นไทย หนึ่งในเมนูที่ขึ้นชื่อและหลายคนนิยมทำรับประทานนั่นก็คือ น้ำพริกกะปิ เป็นเมนูที่ทำได้ง่ายรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นต้องถูกใจอย่างแน่นอน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูวิธีทำน้ำพริกกะปิที่มาในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการนำอาหารไทยมาประยุกต์รูปแบบการเสิร์ฟรับประทานแบบญี่ปุ่น ด้วยการนำมาทำเป็นชูชิ จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย น้ำพริกกะปิ สูตรประยุกต์ ดัดแปลงมาเป็นชูชิน้ำพริกกะปิ ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อคุณต้องการที่จะทำเมนู น้ำพริกกะปิ เบื่อน้ำพริกกะปิในรูปแบบเดิมๆ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูวิธีทำน้ำพริกกะปิที่เป็นสไตล์ผสมผสานรูปแบบการเสิร์ฟ อาหารไทย ด้วยการนำมาทำเป็นชูชิ รับรองว่าจะเป็น เมนูอาหาร ที่แสนอร่อย น่ารับประทาน ได้รับความสนใจจากผู้ที่พบเห็นอย่างมาก จะมีวิธีการทำอย่างไรนั้นไปดูกันเลย วัสดุอุปกรณ์ในการทำ -พริกสด -กระเทียม -กระปิ -ถั่วฝักยาว -แตงกวา -มะนาว น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำตาลปี๊บ  -ผักสดนานาชนิด -ไข่ ปลาทู ขั้นตอนและวิธีการทำ นำกระเทียม พริกสด ใส่ลงไปในครกตำให้ละเอียด ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำตาลปี๊บ ผงปรุงรส น้ำปลา เมื่อได้รสชาติตามต้องการแล้ว ใส่น้ำต้มสุกลงไป ชิมรสอีกครั้งและตักใส่ถ้วยไว้ นำไข่ 4 ฟอง มาตอกลงในถ้วยตีให้ละเอียด …

ในการรับประทานอาหารในทุกๆมื้อนั้น แต่ละครอบครัวก็ต้องมีเมนูที่ชอบและเมนูที่ต้องการรับประทานอยู่แล้ว แต่ถ้าหากสำหรับบางคนนั้นอาจจะเลือกเมนูที่รับประทานไม่ได้ ในที่นี้เราขอแนะนำให้คุณเลือกรับประทานเมนูที่เรียกว่า ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู เพราะว่าเมนูนี้จะทำให้คุณนั้นได้รับประทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย และด้วยความโดดเด่นของปลาทูที่มีเนื้อที่อร่อยอยู่แล้ว และในข้าวเองก็มีการผัดด้วยน้ำพริกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ก็ยิ่งทำให้เมนูอาหารมื้อนี้มีแต่ความเลิศรส ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ถ้าหากจะบอกว่ามีวัตถุดิบอะไรบ้างที่คุณสามารถทำได้ เราก็ต้องบอกเลยว่ามีวัตถุดิบที่หาได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาทู ซึ่งส่วนใหญ่ปลาทูนั้นก็จะต้องเป็นปลาทูจากแม่กลองเท่านั้นถึงจะทำให้ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูมีความอร่อยและเลิศรสอย่างที่ต้องการ ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู เมนูนี้จะทำให้คุณนั้นได้รับประทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย นอกจากปลาทูจากแม่กลองแล้ว ในเมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทูก็ยังมีน้ำพริกที่เป็นจุดเด่นของการนำมาผัดกับข้าวอีกด้วยที่จะทำให้เมนูนี้มีความเลิศรสได้ง่ายๆ ซึ่งในน้ำพริกนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีส่วนผสมที่เป็นพริกขี้หนู พริกหยวก หอมแดง กระเทียม น้ำปลา หรือแม้จะเป็นน้ำมะนาวก็ตามก็ต้องมีอยู่ในน้ำพริก ส่วนวัตถุดิบอื่นๆนั้นในเมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทู คุณก็สามารถที่จะใช้ผักต้มเป็นเครื่องเคียงได้ ซึ่งผักต้มนั้นก็อาจจะเป็นแครอทหรือมะเขือยาวก็ด้ เพื่อการสร้างสีสันและความอร่อยให้กับเมนูนี้มีความเลิศรสอย่างที่คุณต้องการ จะเห็นได้ว่า เมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทูไม่ว่าจะเป็นในส่วนของปลาทูเอง หรือจะเป็นในส่วนของน้ำพริกเอง  ก็ล้วนแต่ที่จะชูให้เมนูนี้มีความเอร็ดอร่อยและมีความเลิศรส แม้แต่เครื่องเคียงที่เป็นผักต้มเองก็จะทำให้เมนูอาหารนี้มีสีสันที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

ในการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อเที่ยง หรือมื้อเย็น หากในมื้อหนึ่งๆนั้น คุณมีเมนูอาหารที่มีความอร่อยและมีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับเมนูอาหารใดๆแล้ว เราก็ต้องบอกเลยว่าการรับประทานอาหารในมื้อนั้นๆจะต้องมีความอร่อยอย่างแน่นอน อย่าง การทานข้าวกับ น้ำพริก ก็ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารเมนูหนึ่งที่คนไทยนิยมทานและเป็นเมนูที่มักจะพบเจอบ่อยในมื้ออาหารของแต่ละครอบครัว ซึ่ง น้ำพริก ในที่นี้เราจะกล่าวถึงน้ำพริก3 อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกากหมู น้ำพริกปลาทูคั่ว หรือว่าจะเป็นน้ำพริกแจ่วปลาร้า เริ่มจากน้ำพริกกากหมู เป็นน้ำพริกที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำพริกที่มีความโดดเด่นในวัตถุดิบที่เป็นในส่วนของ   กากหมู ซึ่งถ้าหากคุณทำอาหารด้วยตนเองแล้ว คุณก็ทราบดีว่าคุณจะต้องใช้มันหมูนั้นในการหั่นเป็นเส้นๆเพื่อที่จะทำกากหมู แต่ความอร่อยไม่ได้มีอยู่เพียงแค่กากหมูที่นำมาทอดใส่ในน้ำพริกเท่านั้น แต่ยังมีการเจียวมันหมูให้มีความกรอบ เมื่อกรอบแล้วก็ใส่หอมแดงเจียวก็ยิ่งทำให้น้ำพริกกากหมูนั้นมีแต่ความอร่อย น้ำพริก ก็ถือได้ว่าเป็นเมนูอาหารเมนูหนึ่งที่คนไทยนิยมทาน หรือว่าจะเป็นน้ำพริกปลาทูคั่วที่มีส่วนผสมหลัก ก็คือ ปลาทู โดยการนำปลาทูนั้นไปย่างจนหอมแล้วนำไปคั่วอีกครั้งหนึ่งก็ยิ่งทำให้น้ำพริกปลาทูคั่วนั้นเป็นเมนูอาหารที่มีแต่ความหอมและความอร่อย ยิ่งทานกับข้าวก็ยิ่งอร่อย สุดท้ายน้ำพริกแจ่วปลาร้า เป็นน้ำพริกที่เรียกได้ว่ามีความแตกต่าง แต่มีความลงตัวในการรับประทานกับข้าวเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยการใช้เนื้อปลาร้าเป็นหลักในการทำน้ำพริกและด้วยวัตถุดิบอื่นๆที่ทำให้เนื้อปลาร้าสับนั้นไม่มีกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นหอมแดง กระเทียม ก็ยิ่งทำให้เมนูอาหารนี้ เมื่อทานกับข้าวแล้วก็ยิ่งหอมและมีความอร่อย จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกแจ่วปลาร้าน้ำพริกปลาทูคั่ว หรือว่าจะเป็นน้ำพริกกากหมูก็ตาม เป็นน้ำพริกที่เรียกได้ว่ายิ่งทานก็ยิ่งอร่อย และเมื่อยิ่งได้ทานกับข้าวร้อนๆแล้วก็ยิ่งมีความอร่อยขึ้นไปอีก จนคุณไม่สามารถที่จะหยุดทานได้เลย

ในปัจจุบันนั้นต้องบอกเลยว่าเมนูอาหารที่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยมเลยก็ต้องเป็นเมนูอาหารจำพวกน้ำพริก เพราะเหตุที่น้ำพริกเป็นเมนูอาหารที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการย่อยสลายของไขมันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนูสดหรือว่ากระเทียมหรือว่าจะเป็นพริกไทยก็ตาม ซึ่งพริกไทยนั้นหากนำมาใช้ในเมนูอาหารที่เป็นน้ำพริก เราก็ขอบอกว่าเป็นเมนูที่เรียกว่า น้ำพริกพริกไทยอ่อน เพราะด้วยชื่อแล้วก็ถือได้เลยว่าเป็นเมนูที่ใส่พริกไทยอย่างชัดเจนและยิ่งที่จะทำให้การลดน้ำหนักของคุณนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ว่าเมนู น้ำพริกพริกไทยอ่อน นี้จะมีการใส่ส่วนผสมที่เป็นเนื้อหมูด้วย แต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนผสมที่ไม่เยอะมาก เนื่องจากจะมีส่วนผสมอื่นๆเข้ามาประกอบที่จะช่วยให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่กล่าวไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพริกสดหรือจะเป็นพริกไทยอ่อนก็ตาม แถมในเมนูน้ำพริกพริกไทยอ่อนนี้ยังมีการใส่น้ำมะขามเปียกอีกด้วย ก็ยิ่งทำให้การขับถ่ายของคุณเป็นการขับถ่ายที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมไปอีก น้ำพริกพริกไทยอ่อน นี้จะมีการใส่ส่วนผสมที่เป็นเนื้อหมูด้วย ในการทำเมนูน้ำพริกพริกไทยอ่อนนี้ การทำขั้นแรกนั้นคุณก็จะต้องทำการใส่หมูสับไปผัดในกระทะให้สุกเสียก่อน เพราะหากคุณใส่ส่วนผสมอื่นเข้าไปผัดก่อนแล้ว หมูที่คุณใส่ตามมาครั้งหลังนั้นก็จะไม่สุก ฉะนั้นเริ่มต้นขั้นแรกเลยก็ต้องใส่เนื้อหมูลงไปผัดให้เสร็จก่อนนั่นเอง ขั้นตอนต่อมา คือ การใส่เม็ดพริกไทยลงไปผัดพร้อมด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะขามเปียกหรือว่าจะเป็นน้ำปลาหรือน้ำตาลก็แล้วแต่ก็สามารถที่จะใส่ปรุงลงไปได้ นอกจากนี้น้ำพริกพริกไทยอ่อนควรจะต้องให้มีน้ำขลุกขลิกด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน จะเห็นได้ว่า เมนูน้ำพริกพริกไทยอ่อนนั้นเป็นเมนูที่จะทำให้คนที่ชอบลดน้ำหนัก สามารถที่จะลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว เพราะด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบที่ทำในเมนูนี้เป็นส่วนผสมและวัตถุดิบที่ดีเยี่ยมที่มีสารที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ฉะนั้น หากคุณจะเลือกเมนูใดเมนูอาหารหนึ่งในการลดน้ำหนักก็ต้องเลือกเมนูน้ำพริกพริกไทยอ่อนเท่านั้น ฝากติดตามเว็บไซต์ดี ๆ อย่าง ufa6666 ไว้ด้วยนะคะ

ในการทำอาหารแต่ละเมนูนั้นก็มีทั้งเมนูจืด เมนูเค็ม และเมนูเผ็ด ยิ่งเป็นเมนูเผ็ดแล้ว ก็เป็นเมนูที่เรียกได้ว่ามีแต่ส่วนผสมที่มีรสฉุนและรสเผ็ดเพราะด้วยวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นแกงเผ็ดนั้นมีส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษโดยเฉพาะในที่นี้จะกล่าวถึงส่วนผสมที่ใช้เป็นส่วนประกอบของแกงเผ็ดให้คุณได้รู้จักกัน แต่เราขอบอกเลยว่า เราจะกล่าวถึง น้ำพริกแกงเผ็ด เพราะเหตุที่ น้ำพริกแกงเผ็ด นั้นถือเป็นน้ำพริกที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารหลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นแกงเผ็ดหรือจะเป็นในส่วนของน้ำพริกก็ตาม จากส่วนผสมแรกของน้ำพริกแกงเผ็ดนั้น จะเห็นได้ว่าน้ำพริกมีในส่วนที่เป็นตะไคร้ ขิง พริกแห้ง กระเทียม หอมแดงซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ก็เป็นส่วนผสมที่เรียกได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่คุณสามารถที่จะหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป แต่หากคุณมีเวลามากพอ คุณก็อาจจะนำพืชสมุนไพรเหล่านี้มาปลูกไว้บริเวณบ้านก็ได้ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำอาหาร น้ำพริกแกงเผ็ด นั้นถือเป็นน้ำพริกที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารหลากหลายเมนู และน้ำพริกแกงเผ็ดยังมีวัตถุดิบอื่นที่มีความสำคัญนอกเหนือจากตะไคร้ พริกแห้ง กระเทียม หอมแดงแล้ว ก็ยังมีรากผักชีอีกด้วยที่จะทำให้รสชาติของน้ำพริกนั้นมีรสชาติที่หอม และเมื่อคุณเตรียมวัตถุดิบที่กล่าวมานั้นเรียบร้อยแล้ว วิธีการต่อมา ก็คือ จะต้องตำให้ส่วนผสมเหล่านี้มีความละเอียด แต่การทำน้ำพริกแกงเผ็ดบางท่านอาจจะนำพริกแห้งมาตำภายหลัง ก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน แต่บางคนก็เห็นว่าน้ำพริกอาจจะตำพริกแห้งก่อนพร้อมกับเกลือก็ได้ เพราะว่าพริกแห้งนั้นมีลักษณะที่เบา ซึ่งถ้าหากตำ ก่อนก็จะช่วยให้พริกแห้งนั้นมีความละเอียด แต่หากตำภายหลังก็อาจจะทำให้พริกแห้งนั้นมีลักษณะที่อาจจะไม่เข้ากับส่วนผสมอื่นๆก็ได้ ซึ่งทำให้การตำนั้นใช้ระยะเวลานานขึ้นไปอีก ฉะนั้น ในการทำเมนูอาหารแกงเผ็ดก็มักจะมีน้ำพริกเข้ามาเป็นส่วนประกอบของแกงเผ็ดแต่ละเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดเผ็ดหรือเป็นแกงเผ็ดที่ใส่กะทิก็ตามก็มักจะมีน้ำพริกแกงเผ็ดประกอบอยู่ด้วยเสมอ

     หลายคนคิดว่า น้ำพริกลงเรือ ทำยาก  จริงๆ แล้วมีหลักการคล้ายการทำน้ำพริกกะปินั่นเองครับ  เพียงแต่มีเครื่องเคราเยอะกว่าเท่านั้น  วันนี้เรามาลองทำกินกันดู  ว่าสูตรน้ำพริกอร่อยนี้จะแซ่บขนาดไหนครับ! ติดตามต่อในบทความเมนูอาหาร สูตรน้ำพริกลงเรือ  ความอร่อยที่ไม่ธรรมดา ประวัติความเป็นมา      เป็นน้ำพริกอร่อยในตำรับอาหารชาววังอีกชนิดที่หากินยาก  มีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวานกลมกล่อมไม่โดด  ซึ่งคิดค้นโดยเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ  ในรัชกาลที่  5  ครับ       ใครทำขายก็มักขายได้ราคาดี  ซึ่งหากใครได้กินก็จะติดใจเพราะรสชาติหอมอร่อย  อุดมไปด้วยของดีๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปลาดุก  ไข่เค็ม  หรือหมูหวาน  ส่วนผสม น้ำพริกลงเรือ   สูตรโบราณอาจมากชนิดไปหน่อยแต่วิธีการทำไม่ยากเย็นอย่างที่คิดครับ ส่วนผสม –  หมูหวาน  1  ขีด  (หมูสามชั้นที่ต้มจนเปื่อย  หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอคำ  แล้วผัดกับน้ำตาลและน้ำปลาให้มีรสออกเค็มๆ หวานๆ เล็กน้อย)  –  ไข่เค็ม  ใช้เฉพาะไข่แดงอย่างเดียว  ผ่าเป็นชิ้นเล็กๆ  1  ฟอง –  ปลาดุกฟู  1/2  ตัว  (ปลาดุกนึ่งแกะเอาเฉพาะเนื้อมายี  แล้วนำไปทอด  1  รอบพอให้สุกระดับหนึ่ง  …

เชื่อว่าจนถึงวันนี้หลายคนก็ยังสับสนอยู่ ระหว่าง “สละ” และ “ระกำ” โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยนิยมทานกันมากเท่าไร ความจริงมีวิธีสังเกตุอยู่ และต้องดูให้รู้ด้วย เพราะเราจะได้เลือกวัตถุดิบมาทำเมนูอาหารอย่าง น้ำพริกระกำ ได้อย่างถูกต้อง อย่างแรกที่ต้องดูเลยก็คือลักษณะของผล สละจะมีผลที่รียาวกว่า ระกำค่อนข้างกลมป้อม ส่วนของเปลือกก็ดูไม่ยาก สละจะเป็นเกล็ดซ้อนทับกัน ขณะที่ระกำจะเป็นเหมือนหนามแหลมและแข็ง                ทีนี้เมื่อเลือกระกำได้แล้ว ก็ถึงคราวลงครัวโขลก น้ำพริกระกำ กันได้ ส่วนผสมที่นอกเหนือไปจากระกำก็มีไม่มากนัก และสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน ได้แก่ พริกสด ถ้าเป็นพริกขี้หนูจะดีมาก กุ้งแห้ง กระเทียม หลักๆ มีเพียงเท่านี้เอง แล้วก็มีเครื่องปรุงรสอีกแค่ 3 อย่าง คือน้ำตาล น้ำปลา และกะปิ หมายความว่าขอให้ได้ระกำมา แค่นี้ก็ทำทานกันได้แล้ว                ขั้นตอนการทำน้ำพริกระกำก็ง่ายดายไม่แพ้การสรรหาวัตถุดิบ เริ่มจากโขลกกุ้งแห้งให้แตกฝอยก่อน เทคนิคที่ใช้ได้ดีก็คือ การเอากุ้งแห้งไปแช่น้ำไว้สักพัก ส่วนหนึ่งก็เพื่อล้างฝุ่นผง อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้เนื้อนุ่มลง เวลาโขลกจะขึ้นฟูได้เร็ว จากนั้นให้นำพริก กระเทียมใส่ตามลงไป โขลกจนทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปิดท้ายด้วยพระเอกของเรา เนื้อระกำฝาน คราวนี้ต้องโขลกเบามือหน่อย เพราะจะมีน้ำระกำออกมา โขลกแรงไปก็จะกระเด็นออกมาให้แสบร้อนกันเปล่าๆ …

เครื่องจิ้มประเภท น้ำพริก ของไทยมีมากมาย ซึ่งในแต่ละภาคนั้น ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างเช่นเดียวกัน และทางภาคอีสานก็มี น้ำพริก ที่มีเอกลักษณ์ เพราะมีปลาร้าเป็นส่วนประกอบ และหาวัตถุดิบได้ตามพื้นบ้านทั่วไป เรียก น้ำพริก ต่าง ๆ ว่า “แจ่ว” หรือ “ป่น” ทางภาคอีสานมี “แจ่ว” และ “ป่น” มากมายเช่น แจ่วปลาร้าหรือแจ่วบอง แจ่วเห็ด ป่นปลาร้า ป่นปลาทู ป่นเห็ด เป็นต้น                แจ่วบองหรือแจ่วปลาร้า เป็นหนึ่งในน้ำพริกของทางภาคอีสานซึ่งแน่นอนว่าต้องมี “ปลาร้า” เป็นส่วนประกอบ ส่วนวิธีการทำ แจ่วบองหรือแจ่วปลานั้น ทำโดย ย่างปลาร้าปลาช่อนที่ห่อใบตองสัก 2 – 3 ชั้น ให้หอม หลังจากนั้น โขลกหอมหัวแดง และกระเทียมเผาให้ละเอียด จากนั้นใส่ตะไคร้และข่าซอย ตำต่อไปให้เข้ากัน จากนั้นนำใบมะกรูดเลาะแกนตรงกลางของใบมะกรูดออกซอย และตำให้เข้ากับน้ำพริกที่โจลกไว้ให้ตอนแรก แกะเนื้อปลาร้าปลาช่อนโขลกให้เป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำพริกแจ่ว ปรุงรสให้เปรี้ยวด้วยมะขามเปียกสับ และความเผ็ดด้วยพริกป่นคั่ว จนรสชาติของแจ่วบอง หรือแจ่วปลาร้าได้รสชาติตามที่ต้องการ …

หากว่าการทานอาหารในแต่ละมื้อนั้นมันมีความน่าเบื่อ ดูแล้วเบื่อๆอาหารเราขอลองให้คุณชิมเมนูที่เราจะนำเสนอนี้ดู เรารับรองได้เลยว่า เมนูอาหาร ที่จะนำเสนอนี้แม้ว่าคุณจะไม่ใช่คนที่ชอบทานอาหารประเภทนี้เป็นพิเศษ แต่ขอรับรองเลยว่าถ้าคุณได้ทานแล้วคุณจะติดใจแล้วอยากจะทานในทุกๆมื้อเลย เมนูนั้น ก็คือ ข้าวน้ำพริกกะปิซูชิ เป็นเมนูที่มีการรังสรรค์ให้ ข้าวน้ำพริก มีความกิ๊บเก๋ด้วยการตกแต่งข้าวให้มาเป็นซูชิเป็นก้อนๆ ได้ฟีลในการทานอาหารแบบญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ข้าวน้ำพริกกะปิซูชิ เมนูกิ๊บเก๋ที่ควรลอง ซูชิเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่มีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมนูนี้เข้ามาในไทยหลายปีแล้ว ฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่าหากมีซูชิที่ไหนคนไทยเราก็จะมีการอุดหนุนไปทานกลับบ้านเสมอ ไม่ซื้อไปทานก็อาจจะทานที่ร้านเลยก็ได้ จึงทำให้รูปแบบของซูชิเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำอาหารไทยได้ไม่ยาก ยิ่งเป็นเมนูข้าวแล้วก็ยิ่งทำได้ง่าย เพราะด้วยพื้นฐานของซูชินั้นก็มีข้าวเป็นส่วนผสมหลักอยู่แล้ว หากน้ำเมนูข้าวน้ำพริกกะปิมาทำเป็น ข้าวน้ำพริกกะปิซูชิ ก็ไม่ยากอะไรเลย มันอาจจะยากในช่วงที่คุณต้องพิถีพิถันในการทำสักหน่อย แต่เพื่อความอร่อยและหน้าตาที่น่าทานก็ไม่เป็นการเสียเวลาในการทำเลย จะเห็นได้ว่าข้าวน้ำพริกกะปิซูชิเป็นเมนูที่ถูกใจคนชอบกินซูชิเป็นอย่างมาก ฉะนั้น สาวกซูชิไม่ควรพลาดไปเลย แต่ไม่เพียงเฉพาะคนที่ชอบเท่านั้น แม้แต่คนที่ไม่ค่อยชอบทานซูชิแต่เมื่อเห็นว่าเป็นข้าวน้ำพริกกะปิล่ะก็ต้องเปลี่ยนใจเลยทีเดียว เพราะความอร่อยของข้าวน้ำพริกกะปินั่นเอง ส่วนใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยบอกเลยว่าทำไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าไม่เชื่อไปลองทำเมนูนี้กันเลย